คลังเก็บผู้เขียน: admin

1  กุมภาพันธ์ปี 1884 พจนานุกรมภาษาอังกฤษฉบับออกซฟอร์ดฉบับแรกวางจำหน่าย

    พจนานุกรมภาษาอังกฤษฉบับออกซฟอร์ด   เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีโอกาสได้ใช้งานพจนานุกรมภาษาอังกฤษกันมาบ้างแล้วเนื่องจากว่าปัจจุบันนั้นเด็กนักเรียนทุกคนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลขึ้นไปก็เริ่มจำเป็นที่จะต้องเรียนภาษาอังกฤษกันเพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องมีพจนานุกรมภาษาอังกฤษเอาไว้มาเป็นคู่มือ

ในการที่จะช่วยแปลคำศัพท์ให้กับเราซึ่งโดยปกติแล้ว  หวยฮานอย บาทละ 1000  เรามักจะเห็นว่าตามร้านขายหนังสือนั้นมักจะเอาพจนานุกรมของ oxford มาให้ขายให้กับลูกค้านั่นเองโดยในบทความนี้เราจะมีการพูดถึงว่าพจนานุกรมของอังกฤษถูกนำมาวางจำหน่ายครั้งแรกได้อย่างไร

       สำหรับจุดเริ่มต้นในการที่จะทำพจนานุกรมขึ้นมาครั้งแรกนั้นเป็นความต้องการของทางสมาคมอักษรศาสตร์ที่พวกเขามีความรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยพอใจกับพจนานุกรมภาษาอังกฤษที่มีอยู่ในปัจจุบันในตอนนั้นเอง

ดังนั้นพวกเขาจึงได้มีการริเริ่มที่อยากจะมีการพจนานุกรมขึ้นมาซึ่งเป็นพจนานุกรมฉบับใหม่ดังนั้นจึงได้มีการรวมตัวกันของคนกลุ่มหนึ่งโดยสมาชิกหลักของกลุ่มนี้ก็คือ Richard Chenevix  , Herbert Coleridge  และ  Frederick Furnivall 

       สำหรับความต้องการที่คนกลุ่มนี้อยากจะสร้างพจนานุกรมขึ้นมาใหม่นั้นก็เพราะว่าเขาอยากจะมีการพัฒนาพจนานุกรมในรูปแบบใหม่เนื่องจากว่าของเก่านั้นยังค้นหาความสุขได้ไม่ดีเท่าที่ควรซึ่งบางทีก็ไม่มีคำศัพท์ที่อยากจะได้ดังนั้นในการทำหนังสือพจนานุกรมขึ้นมาใหม่นั้นจึงใช้สมาธิเป็นอย่างมาก

และทุกคนนั้นต่างก็ต้องทำงานกันอย่างหนักเลยทีเดียวแต่แล้วในที่สุดด้วยภาวะความเครียดทำให้กลุ่มสมาชิกหลักมีการถอนตัวออกไปหลายคนเหลือเพียงแค่ Frederick Furnivall  คนเดียวเท่านั้นที่ยังมุ่งมั่นที่จะทำพจนานุกรมขึ้นมาวางขายให้ได้

         อย่างไรก็ตามด้วยตัวเขาเองนะเหลือตัวคนเดียวและงานก็ยังคงหนักอยู่ยังมีงานมากมายที่ต้องรอให้เขาต้องจัดการทำให้Frederick Furnivall  เริ่มไม่สนใจที่จะทำพจนานุกรมหลังจากนั้นเขาก็เริ่มขาดการติดต่อไม่ยอมติดต่อกับผู้ช่วยของเขาทำให้แนวโน้มที่จะสร้างพจนานุกรมฉบับไหนนั้นเริ่มเข้ารางว่าอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ

        แต่ในช่วงปีค.ศ 1870 Frederick Furnivall  ก็ตัดสินใจที่จะกลับมาทำพจนานุกรมต่อและเขาก็ได้มีการว่าจ้าง  James Murray ให้มาช่วยนอกจากนี้ยังมี สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย oxford ก็ตกลงที่จะจัดพิมพ์พจนานุกรมด้วยการ และทางออกฟอร์ดจะจ่ายเงินให้กับJames Murray  เป็นเงินเดือนค่าบรรณาธิการจัดทำหนังสือและคาดหวังว่าการจัดทำหนังสือจะเสร็จภายใน 10 ปีข้างหน้า

        จนพจนานุกรมฉบับแรกได้ตีพิมพ์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปี 1884 โดยพจนานุกรมเล่มนี้มีชื่อเต็มว่าพจนานุกรมภาษาอังกฤษฉบับใหม่อิงหลักการเชิงประวัติจะทำจากเอกสารที่รวบรวมโดยสมาคมอักษรศาสตร์เป็นหลักมีเนื้อหา 352 หน้าเริ่มจาก Acer และวางขายเพียง 4000 เล่มเท่านั้น 

คำสาปวังหน้าของรัชกาลที่1

คำสาปวังหน้าของรัชกาลที่1 เพื่อนๆในกรุงเทพก็คงจะรู้จักกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนครที่ตั้งอยู่บริเวณสนามหลวงใช่ไหมก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงของโบราณของประเทศไทยในอดีตซึ่งตัวอาคารก็นับว่าสวยมากๆจนไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นแค่เพียงพิพิธภัณฑ์อย่างเดียว

เพราะว่าในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นพระราชวังโบราณสถานมงคลมาก่อนที่เป็นที่ประทับของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทที่เป็นน้องชายของราชการที่หนึ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งวังหน้าในสมัยนั้นเมื่อพูดถึงวังหลวงวังหน้าในหัวของหลายๆคนก็จะเป็นภาพของตึกราชวังใช่ไหม

แต่เราขอบอกเลยว่าเวลาส่วนใหญ่ที่เขาเรียกกันมันไม่ได้หมายถึงสถานที่มันจะหมายถึงตำแหน่งรัชทายาทสมัยก่อนคือเขาจะแต่งตั้งคนที่มีสิทธิได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์คนต่อไปแล้วก็เรียกว่าวังหน้าคือรอเอาไว้ก่อนที่ชื่อเต็มๆของตำแหน่งก็คือกรมพระราชวังบวรสถานมงคล

นอกจากนี้การที่ใครหลายๆคนได้เรียกกันจนติดปากว่าวังหน้าสาเหตุก็มาจากในช่วงสมเด็จพระมหาราชาธิราชที่เป็นพระบิดาของสมเด็จพระนเรศวรพระองค์ก็ได้สร้างพระราชวังหลังเล็กๆหลังหนึ่งเอาไว้อยู่ด้านหน้าพระราชวังหลวงให้เป็นที่ประทับขององค์รัชทายาทก็คือสมเด็จพระนเรศวรนี่เอง

ซึ่งด้วยความที่ว่าวังไปตั้งอยู่ด้านหน้าของวังหลวงนี่เองชาวบ้านก้เลยเรียกกันง่ายๆว่าวังหน้าๆและในเวลาต่อมาก็เลยเป็นคำเรียกขององค์รัชทายาทที่ประทับอยู่ในวังหน้าไปด้วยนั่นเองแล้วรู้หรือไม่ว่าบ้างทีคำว่าวังหลวงเขาก็ยังใช้สื่อของการเรียกองค์พระมหากษัตริย์ในยุคนั้นด้วย

โดยตำแหน่งก็ได้ดำรงมาเรื่อยๆจนกระทั่งมีกรุงรัตนโกสินทร์กันแล้วก็ยังตามมาอยู่โดยในยุคของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระองค์ก็ได้เริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นจัดระบบบ้านเมืองที่พยายามจะทำให้กรุงรัตนโกสินทร์กลายเป็นอยุธยาคือเอาทุกอย่างออยุธยามาเลยว่าจะเป็นระบบทางการเมืองกฎหมายตึกบ้านช่องและตำแหน่งต่างๆรวมไปถึงตำแหน่งวังหน้าอีกด้วย

ดังนั่นวังหน้าในสมัยรัชกาลที่1 ก็ได้สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมา  หวยออนไลน์บาทละ 1000  เพื่อจะให้เป็นที่ประทับของวังหน้าที่อยู่อยุธยาเลยแต่ทว่าเมื่อพระองค์นั้นได้จากไปสถานที่แห่งนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ให้รกร้างไม่มีคนในวังอื่นเลยที่จะเข้ามาอยู่ต่อเนื่องจากว่ามันมีเรื่องของคำสาปเข้ามาเกี่ยวข้อง

โดยมันมีเรื่องเล่าว่าในขณะที่วังหน้าของท่านนั้นได้ป่วยแล้วท่านก็คาดว่าท่านน่าจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วก็ได้มองไปรอบๆประสาทแล้วก็พูดออกมาประมาณว่าของเหล่านี้ข้าอุส่าทำด้วยความคิดแล้วก็กำลังแรงตอนที่ข้าสร้างก็ไม่มีใครมาช่วยสร้างเลยหรือจะร่วมทุนร่วมแรงก็ไม่มีพอสร้างเสร็จก็ไม่ได้อยู่ดู

ตำนานหอ นช. มหาลัยเชียงใหม่

ตำนานหอ นช. มหาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีรุ่นพี่คนหนึ่งแอบรักกับรุ่นน้องปี1ที่เข้ามาใหม่

จากนั้นทั้งสองก็ได้รักกันมากขึ้นจึงทำให้เป็นที่น่าอิจฉาเหล่านักศึกษาหญิงในมหาลัยเชียงใหม่หลังจากนั้นน้องปี1ก็เริ่มรู้สึกรักมากขึ้นและทำให้รุ่นพี่เริ่มที่จะตีตัวออกห่าง

เพราะดูเหมือนกับว่าจะเต็มอิ่มไปกับความรักของขาแล้วจึงเริ่มที่จะตีตัวออกห่างตามประสาผู้ชายเจ้าชู้และวันนี้ก็ได้มาถึงเป็นวันที่สร้างตำนานมาจนถึงทุกวันนี้พอถึงเย็นวันศุกร์เป็นกิจวัตรประจำวันที่รุ่นพี่จะมารับรุ่นน้องอยู่เป็นประจำแต่รุ่นพี่ก็ไม่ได้มาตามเวลาที่ได้นัดกัน

โดยรุ่นพี่มารับเธอในเวลาที่ค่อนข้างจะดึกมากแล้วนักศึกษาเธอเลยได้ถามว่าทำไมมาดึกรุ่นพี่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเบี้ยงไปเรื่อยไม่ตอบไม่ได้บอกเหตุผลจริงๆว่าทำไมถึงมาดึกซึ่งตัววของเธอก็เริ่มระแคะระคายมาอยู่บ้างแล้วเพราะเนื่องจากว่าพักหลังเธอได้มีคนมาบอกรุ่นพี่ที่เป็นแฟนเธอกำลังไปติดพันธุ์ผู้หญิงอื่น

นอกจากนี้ด้วยความที่ว่าเธอนั้นค่อนข้างที่จะรักรุ่นพี่คนนี้มากและไม่อยากที่จะเลิกลากับรุ่นพี่คนนี้ไปก็ได้แต่แอบเก็บเอาไว้ในใจอยู่ตลอดและไม่กล้าถามเพราะว่ากลัวที่จะเสียคนรักไปเธอได้บอกกับรุ่นพี่ไปว่ามีเรื่องที่จะพูดด้วยมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆด้วยรุ่นพี่ก็บอกว่าเดี๋ยวไปคุยกันที่หอดีกว่า

ในขณะที่ทั้งสองกำลังซ้อนรถไปที่หอเธอได้บอกกับรุ่นพี่ว่าตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้3เดือนแล้วแต่เมื่อแฟนของเธอได้ยินถึงกับจอดรถทันทีแล้วก็ย้ำว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไรเธอกย้ำไปอีกว่าเธอได้ตั้งครรภ์มา3เดือนแล้วพอรุ่นพี่ที่ได้ยินที่เธอบอกว่าเธอกำลังตั้งท้องได้3เดือนถึงกับเริ่มโมโหแสดงความโกรธและจะไม่รับผิดชอบกับกล่าวหาเธอว่านอกใจไปครบกับผู้ชายคนอื่น

เมื่อท้องแล้วก็มาพูดว่ารุ่นพี่นั้นเป็นคนทำในคืนนั้นรุ่นพี่ได้บอกเลิกกับเธอทันทีและปล่อยให้เธอเดินจากจุดนั้นกลับไปที่หอเพียงลำพังและในระหว่างทางที่เธอกำลังเดินกลับไปที่หอเธอก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นความเสียใจรวมกับความโกรธแค้นที่รุ่นพี่ทิ้งเธอไปบวกกับว่าทางบ้านจะรู้ความจริงและทำให้พ่อแม่ผิดหวังเพราะเธอท้องในวัยเรียน

ซึ่งเธอได้ตัดสินใจที่จะเอาเด็กออกแต่เธอไม่กล้าไปทำและไม่กล้าบอกให้ใครได้รับรู้ด้วยเมื่อเธอกลับมาถึงห้องเธอจึงตัดสินใจทำแท้งด้วยตัวเองเอาไม้บรรทัดเหล็กกระทุ้งข้าไปในมดลูกอย่างแรงทำโดนที่ไม่รู้จึงทำให้ตกเลือดอย่างรุนรงทำให้เธอได้เสียชีวิตในที่สุด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  aesexy

เทพเจ้าของญี่ปุ่น และตำนานความเชื่อ

    เทพเจ้าของญี่ปุ่น  เทพเจ้า ไดโคคุ  มีรูปลักษณ์เป็นชายอ้วนลงพุงใบหน้ายิ้มแย้มยืนอยู่บนถุงข้าวห่อใหญ่บางครั้งจะพบหนูตัวเล็กๆอยู่ข้างท่านด้วยมือถือตะลุมพุกเมื่อท่านสั่งตะลุมพุกในมือเงินทองจะไหลมาเทมาเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่งและการเพาะปลูก 

        เทพเจ้าเบนไซเท็น   หรือ เบ็นเท็นเป็นพระแม่สรัสวดีของฮินดูได้เข้าถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นทางศาสนาพุทธนิกายมหายานคนญี่ปุ่นนับถือในฐานะของเทพแห่งปัญญา กวี อักษรศาสตร์  ศิลปะ  นาฏยกรรมเป็นเทพีเพียงองค์เดียวในเทพแห่งโชคลาภทั้ง 7 ของญี่ปุ่นมักจะถือบีวะ

หรือพินญี่ปุ่นเอาไว้เสมอบางครั้งก็มีรูปงูปรากฏอยู่ด้วย เพราะเชื่อกันว่าท่านสามารถควบคุมอสรพิษและมังกรซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์   สมัยก่อนเกอิชาจะนับถือเทพองค์นี้มากเพราะเชื่อกันว่าทำให้สามารถรำฟ้อนได้อย่างสวยงามและหัวขโมยก็นับถือเช่นกันเพราะเชื่อว่าจะทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ดี 

    เทพเจ้าจูโรจินเป็นชายร่างเตี้ยศรีษะใหญ่ถือไม้เท้ายาวที่มีสมุดเล่มเล็กห้อยไว้เราไว้จดอายุขัยของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกเป็นที่เคารพของคนที่ทำงานเกี่ยวกับสุราประธานเป็นคนที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเมาและมักจะมีกวางดำคู่กายอยู่ด้วยโดยกวางตัวนี้จะมีสีเปลี่ยนไปตามอายุของมัน 

       เทพเจ้าฟุคุโรคุจู   เป็นเทพแห่งความสุข   ความโชคดีร่ำรวยและอายุขัยยืนยาว  เป็นผู้ประทานพรให้ผู้คนหายป่วยไข้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองข้าวปลาอาหารสมบูรณ์   มีพระเศียรเรียวยาว  เคร่งขรึม สำรวมถือไม้เท้าคล้ายคนชรามีปัญญาหลักแหลมมีสัตว์อายุยืนอยู่รอบตัวเช่นนกกระเรียน  เต่า  กวางดำ  เป็นที่นับถือของนักหมากรุก คนทำสวน  พ่อค้าอัญมณี  

        เทพเจ้าซูซาโนะโอ  เป็นเทพแห่งลมทะเลพายุและงูเป็นน้องชายของเทพแห่งดวงอาทิตย์  อามะเทราสึและเทพสึคิโยมิเทพแห่งดวงจันทร์เป็นเทพที่หัวแข็งใจร้อน ส่งพายุไปทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นดินและทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มทำให้ถูกส่งตัวไปอยู่ในโลกมนุษย์และกลับตัวได้จึงใช้พลังที่มีเพื่อผจญภัยไปทั่ว 

       เอ็นมะ  ว่ากันว่าเป็นมนุษย์คนแรกที่ตายบนโลกใบนี้เขาเป็นผู้ที่คอยตัดสินความคิดของมนุษย์ว่าจะให้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกตามพฤติกรรมในอดีตที่เคยทำไว้และมอบบทลงโทษให้กับผู้ที่กระทำความผิด โดยเขามักจะแต่งกายสีแดงรวมถึงใบหน้าสวมมงกุฎและตาเฉียงขึ้นเล็กน้อยดูน่ากลัวเมื่อก่อนเอ็นมะนั้นเคยอาศัยอยู่ในสวรรค์ที่เรียกว่าโกคุราคุโจโดแต่เมื่อเวลาผ่านไปมนุษย์เริ่มเกรงกลัวเขามากขึ้นจนนับถือในฐานะของผู้ตัดสินความตาย  

 

สนับสนุนโดย.  สูตรหวยยี่กี หวยดี

ตำนานผีนางตะเคียน

บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือได้มีบ้านสวนที่ได้ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งได้มีชาวบ้านได้เล่าลือกันว่าได้มีครอบครัวนี้นั้นได้เลี้ยงผี ตำนานผีนางตะเคียน

โดยบ้านสวนหลังนี้ได้อยู่อาศัยด้วยกันทั้งหมดสามคนมี นายนพ ตาชม และยายจันทร์ดี สามพ่อแม่ลูกโยครอบครัวนี้ได้ทำฟาร์มเลี้ยงวัวและเขียงขายเนื้ออยู่ท้ายหมู่บ้านตาชอบแก่ได้สร้างบ้านไม้หลังใหม่แทนที่หลังเดิมได้เกือบปีแล้วด้วยความขี้งกของแก่นั้นแก่กับลูกชายจึงได้ลักรอบเข้าไปตัดไม้ในป่าใหญ่มาทำบ้าน

นอกจากนี้ยังได้นำเอาเสาไม้ตะเคียนมาทำเสาไม้กลางบ้านพอบ้านได้สร้างเสร็จไม่นานเสาตะเคียนใหญ่ที่อยู่กลางบ้านก็เกิดปรากฏการตกน้ำมันมันเงาไปทั้งต้นตามความเชื่อแล้วเสาตะเคียนต้นไหนที่ตกน้ำมันย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ตาชมแก่ได้เห็นดังนั้นก็ได้นำเอาธูปเทียมมาไหว้ขอพรไม่ว่าตาชมจะขอพรอะไรก็สมดั่งใจหมายไม่เว้นแต่เป็นการขอที่เบียดเบียนผู้อื่น

ซึ่งบางทีก็ขอให้เขียงเนื้อของคู่แข่งนั้นเจ็งและก็เจ็งไปตามๆกันทันตาเห็นแต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับเป็นเขียงเนื้อของตาชมเองที่ขายเนื้อวัวไม่ค่อยได้ผ่านมาราวหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เนื้อวัวของตาชมแทบจะขายไม่ได้เลยต้องขายในราคาที่ขาดทุนเพื่อให้ได้เงินมาหมุนเวียนใช้และในคืนนี้ก็เช่นกันและจากที่นพได้ล้มวัวและได้แบ่งขายตาชมก็ได้นำเอาเนื้อมาแขวนไว้ที่เพลิงน่าบ้านเล็กๆของแก่

โดยได้นั่งเฝ้าร้านอยู่นานก็ขายไม่ได้สักทีจนสุดท้ายก็มีลูกค้าประจำที่จะมารับซื้อเนื้อของแก่ไปขายต่อที่ตลาดสดลูกค้าประจำได้บอกว่าลุงชมไม่รู้จริงๆหรือชาวบ้านเขาเล่าลือกันไปทั่วว่าเห็นสาวผมยาวนุ่งชุดแดงมายืนน่าบ้านลุงคนในตลาดเขายังลือกันอีกว่าลุงชมนั้นเลี้ยงผีและใครจะกล้ามาซื้อ

เมื่อตาชมได้ยินแบบนั้นก็มีสีน่าตกใจเพราะลักษณะของผีสาวผมยาวนั้นมันไปตรงกับความฝันเหลือเกินพอลูกค้าประจำขึ้นรถถเสร็จเรียบร้อยก็รีบขับรถออกไปด้วยท่าทีดูรีบร้อนเหมือนหวาดกลัวอะไรสักอย่างตาชมได้รับรู้ถึงสาเหตุที่ร้านเนื้อวัวของแก่ว่าทำไมถึงขายไม่ได้

นอกจากนี้แก่ได้เก็บข้าวของรีบเดินกลับเข้ามาที่บ้านด้วยความโมโหปากก็บ่อสาปแช่งผีตนนั้นในระหว่างที่แก่กำลังเปิดประตูเข้าไปในบ้านนั้นก็พบเจอสาวชุดแดงและบอกว่ากูจะทำให้ชีวิตพวกมึงชิบหายตาชมได้ยินแบบนั้นก็ล้มและหมดสติไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    wm gaming

ตำนานผีเฮี้ยนที่เกาะน้อย

ตำนานผีเฮี้ยนที่เกาะน้อย ซึ่งได้มีเรื่องราวของชาวบ้านที่ได้ถูกนักท่องเที่ยวฝรั่งแต่งตัวดีๆหน่อยได้จ้างให้ไปส่งที่เกาะแห่งนี้นั่นก็คือเกาะขามน้อยแต่เหมือเขาได้ขับเรือมาถึงก็พบว่าคนที่จ้างให้มาส่งที่เกาะนั้นเขาได้หายไปจากเรือแล้ว

หรือว่าบางทีหากมีเรือลำไหนแล่นผ่านเกาะแห่งนี้ไปในยามวิกาลเขาก็มักจะเห็นผู้คนต่างๆได้ยืนโบกมืออยู่บนเกาะแห่งนี้หรือบางทีก็จะพบเห็นคนมาเล่นน้ำอยู่บนชายหาดแต่ที่สำคัญไม่ได้เล่นน้ำแบแก้ผ้า

โดยคนที่ปรากฏให้เห็นว่าเล่นน้ำอยู่นั้นเธอได้ใส่ชุดผ้าคุมแบบมุสลิมคนที่แล่นเรือผ่านไปยังสถานที่บริเวณนั้นก็ขนลุกหรือว่ามันจะเป็นเรื่องราวสยองของชาวประมงที่ได้ไปหาปลาในบริเวณนั้นในตอนเช้าตู่เรื่องมันก็ได้มีอยู่ว่าพอเขาลากแหงขึ้นมาตอนแรกคิดว่าได้ปลาตัวใหญ่ขึ้นมาเพราะมีน้ำหนักเยอะมาก

เมื่อลากเอาขึ้นมาที่ไหนได้พบเป็นโลงศพทั้งใบเลยต่างก็พากันสยองไหมดแต่ทว่าเรื่องราวสยองเหล่านี้มันก็ไม่รู้ว่าจะมีที่มากที่ไปจริงหรือไม่จริงยังไงก็ตามมันก็ได้ส่งผู้คนขยาดกับเกาะแห่งนี้ไปเรียบร้อยแล้วนอกจากว่าพวกนักท่องเที่ยวที่อยากจะไปลองของหรือว่าพวกนักตกปลาที่จะหาที่สงบๆเพื่อตกปลาเท่านั้นที่จะแวะมาที่เกาะแห่งนี้บ้าง

นอกจากนี้ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็จะพยายามที่จะออกมาจากที่เกาะแห่งนี้ก่อนที่พระอาทิตย์นั้นจะตกดินทำให้หลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วที่เกาะแห่งนี้มันก็จะเงียบมากดังนั้นมันก็จะมีอีกพวกหนึ่งที่ได้ใช้สถานที่แห่งนี้ไปทำเรื่องที่ไม่กลัวฟ้าดิน

ส่วนเรื่องราวที่ทำให้เกาะแห่งนี้ได้เป็นที่โด่งดังแล้วก็รู้จักกันมาที่สุดในด้านของความหลอนก็คงจะหนีไม่พ้นการเจอดีของอดีตนักร้องหนุ่มผู้หนึ่งที่เขาได้ไปถ่ายภาพสุดหวิดว่ากันว่าในวันนั้นที่นายแบบคนนี้เขาต้องการที่จะหาสถานที่ดีๆมีวิวสวยๆที่จะได้ภาพที่สวยงาม

ดังนั้นภาพงามๆของการถ่ายแบบแนวนี้มันไม่ค่อยจะเหมาะสำหรับเด็กและคนรอบข้างเท่าไรพี่เขาเลยได้เลือกเอาที่เกาะขามน้อยเป็นเกาะเล็กๆแต่มีสภาพที่สมบูรณ์และที่สสำคัญมันไม่มีคนอีกด้วยจากนั้นได้จ้างชาวบ้านขับเรือบริเวณนั้นได้พาพี่เขาไปส่งที่เกาะแห่งนี้

เนื่องจากนี้คนขับเรือได้ยินแบบนั้นก็มีท่าทีแปลกๆไม่อยากจะมาส่งพอมาถึงเกาะเขาก็ลงถ่ายนายแบบก็อยากได้อะไรที่ทำให้รู้ว่ามาที่เกาะแห่งนี้เขาก็เลยเอาของที่เกาะแห่งนี้รวมอยู่ในรูปถ่ายแบบด้วยจากนั้นเอากลับมาด้วยจากนั้นมาก็ทำให้นายแบบคนนี้เจอดีเอาให้ในที่สุด

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  aesexy

ประวัติเทศกาลเบียร์ Oktoberfest ประเทศเยอรมัน

            หากใครเคยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศเยอรมันจะเห็นว่าประเทศเยอรมันนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของเบียร์ที่มีรสชาติอร่อยและมีเบียร์หลายยี่ห้อ  เทศกาลเบียร์ Oktoberfest ซึ่งเป็นยี่ห้อดังระดับโลกอยู่ในตอนนี้ดังนั้นในทุกๆปีที่ประเทศเยอรมันจะมีเทศกาลหนึ่งที่มีชื่อว่าเทศกาลเบียร์   Oktoberfest

ซึ่งเทศกาลนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมากเนื่องจากว่านอกจากเราจะได้มีการละเล่นแล้วยังได้มีการกินเบียร์แบบไม่อั้นซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติเป็นอย่างมากนั่นเอง

      อย่างไรก็ตาม เทศกาลเบียร์ Oktoberfest นั้นก็มีประวัติความเป็นมาเช่นเดียวกันโดยก่อนที่จะมีการเริ่มเทศกาลเบียร์ Oktoberfest นั้น ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นของเทศกาลนี้เกิดขึ้นในช่วงประมาณปีค.ศ 1810 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 เดือนตุลาคม   โดยในวันดังกล่าวนั้นเป็นวันที่เจ้าชายลุกวิกที่ 1 ได้มีการจัดงานอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเทเรซ่า   ซึ่งพระองค์นั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งแซกโซนี  ฮิวด์บวร์กเฮาเซน  

        เจ้าชายลุกวิกที่ 1 เห็นว่าเป็นงานจัดงานอภิเษกสมรสของพระองค์จึงอยากให้ประชาชนชาวเมืองมิวนิคได้มาร่วมงานสำคัญของพระองค์ในครั้งนี้ด้วยดังนั้นพระองค์จึงได้มีการประกาศเชิญชวนให้กับประชาชนทุกคนในเมืองมาเฉลิมฉลองในวันแต่งงานของพระองค์การโดยพระองค์ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ตรงบริเวณด้านหน้าประตูเมืองเอาไว้ซึ่งนอกจากจะมีการเลี้ยงอาหารและเลี้ยงเบียร์แล้วพระองค์ยังได้มีการจัดการแข่งขันการแข่งม้าของเชื้อพระวงศ์บาวาเรียให้ประชาชนได้ชมกันโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกเรียกว่า  Theresienwiese ซึ่งเป็นที่ถูกใจประชาชนชาวเมืองมีเป็นอย่างมาก

            ดังนั้นในปีต่อมาการแข่งขันม้าสำหรับเชื้อพระวงศ์ จึงมีการจัดขึ้นซึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ถือได้ว่าเป็นการจัดประเพณี   Oktoberfestนั่นเอง  ดังนั้นเมื่อมีการแข่งม้าแล้วก็ต้องมีอาหารการกินมาเลี้ยงฉลองกันจึงมีการนำเบียร์มาเฉลิมฉลองด้วยซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของประเพณีเทศกาลกินเบียร์ Oktoberfest นั้นเอง  

          อย่างไรก็ตามประเพณีนี้ได้มีการหยุดไปช่วงระยะเวลาหนึ่งเพราะผู้คนเริ่มเบื่อการแข่งขันการขี่ม้าแล้วแต่อย่างไรก็ตามเทศกาลนี้ก็ยังคงจัดขึ้นเพียงแต่ว่าเปลี่ยนแนวทางจากการแข่งขันการขี่ม้ามาเป็นการนำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านมาวางขายแทนและยังมีการนำเครื่องเล่นมาแสดงในงานเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเล่นเพื่อให้งานไม่เกิดความน่าเบื่อเช่นมีการเอามาหมุนมาเอาชิงช้าสวรรค์มา

       นอกจากนี้คนที่มาร่วมงานก็ยังคงได้รับประทานเบียร์ทำให้ท้ายที่สุดแล้วประเพณีนี้ก็มีการสืบสานกันต่อเรื่อยมาโดยยึดการนำของมาขายและการจัดตั้งซุ้มเบียร์เนื่องจากบริษัทเบียร์เห็นว่าเมื่อมีงานนี้เกิดขึ้นเบียร์สามารถขายได้เพราะคนเริ่มกินเบียร์มากขึ้นดังนั้นบริษัทเบียร์จึงให้การสนับสนุนเทศกาลนี้มากมีการเอาเต็นท์ขนาดใหญ่มากลางและตั้งโต๊ะและเก้าอี้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปีจนท้ายที่สุดแล้วผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็รู้จักเทศกาลนี้และเมื่อถึงประมาณเดือนตุลาคมผู้คนก็จะเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศเยอรมันเพื่อร่วมเทศกาลเบียร์ Oktoberfestนั่นเองนั่น        

 

สนับสนุนโดย.  สูตรหวยยี่กี 2ตัวล่าง lottovip

ตำนานสะพาน ยางิยาม่า  

          ที่จังหวัด มิยากิ  ที่เมืองเซนได จะมีน้ำแม่สายหนึ่งซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักและมีความกว้างมาก เป็นแม่น้ำที่ตัดเขตระหว่างเขตไทฮาคุ กับเขต อาโอะ ตำนานสะพาน ยางิยาม่า    ดังนั้นตรงนี้จึงมีสะพานที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อระหว่างทั้งสองเขตเข้าด้วยกันเพื่อที่จะสามารถเดินทางไปมาหากันได้ความสะดวกนั่นเอง

        โดยสะพานแห่งนี้นั้นเป็นสะพานที่มีความกว้างรถสามารถวิ่งได้ถึง 2 เลนด้วยกันและที่สำคัญสะพานแห่งนี้นั้นมีการสร้างกำแพงกั้นเอาไว้สูงถึง 2 เมตรเลยทีเดียวและกำแพงที่สูงถึง 2 เมตรนั้นก็มีสร้างเอาไว้ถึง 2 ชั้นด้วยกัน

ถ้าหากใครเคยเดินทางมาที่จังหวัด มิยากิแห่งนี้แล้ว

เราก็ย่อมเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับสะพาน ยางิยาม่า  แห่งนี้กันอย่างแน่นอน เพราะสะพานนี้มีตำนานที่น่ากลัวมากโดยสะพานแห่งนี้นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นสะพานที่มีคนมาฆ่าตัวตายกันเป็นจำนวนมากเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ค่าตัวตายอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

สำหรับสถานที่แห่งนี้นั้นหากใครมาใช้บริการในช่วงเวลากลางวันแล้ว

ก็เพิ่งจะเห็นว่าสะพานแห่งนี้ไม่ได้มีความน่ากลัวแต่อย่างใดรถยังคงวิ่งให้บริการบนถนนอย่างนั้นนั่นตลอดเวลาและยังคงมีคนที่ใช้บริการสัญจรผ่านไปมารวมถึงมีชาวบ้านมาวิ่งออกกำลังกายบนสะพานแห่งนี้

        แต่ในทางกลับกันถ้าหากคุณไม่มีโอกาสแวะมาที่สะพานแห่งนี้ในช่วงเวลากลางคืนแล้วแล้วก็ ที่นี่จะเงียบเหงาเป็นอย่างมาก แทบจะไม่มีรถวิ่งในช่วงเวลากลางคืนเลยก็ว่าได้ ก็เพราะว่ามีเรื่องเล่าที่น่ากลัวเราถึงสะพานยางิยาม่าแห่งนี้อยู่บ่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องของความน่ากลัวของวิญญาณของเหล่าคนที่มากระโดดสะพานฆ่าตัวตายที่แห่งนี้นั่นเอง 

      ตำนานสะพาน ยางิยาม่า   แห่งนี้นั้นมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่เคยมาใช้บริการยามค่ำคืนและมักจะเห็นวิญญาณของคนตายบ้างก็จะเห็นว่ามีวิญญาณของคนตายมานั่งรออยู่ตรงป้ายรถเมล์ซึ่งคนที่มานั่งรอนั้นจะมีเพียงแค่ครึ่งท่อนเพียงเท่านั้นหรือบางคนก็เห็นเป็นรูปร่างเหมือนคนแต่ไม่มีศีรษะนั้นเอง

           อย่างไรก็ตามว่ากันว่าได้มีแก๊งวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมีด้วยกัน 5 คนต้องการหาข้อพิสูจน์ว่าสะพานแห่งนี้มีผีจริงหรือไม่พวกเขาจึงได้พากันขี่รถมอเตอร์ไซค์มาที่สะพานแห่งนี้เพื่อมาดูวิญญาณแต่ไม่ว่าจะขับรถวนไปกี่ครั้งก็ไม่เห็นวิญญาณหลังจากนั้นพวกเขาจึงกลับไปแต่พอวันรุ่งขึ้นปรากฏว่าเพื่อนในกลุ่มของเขาหายไปคนนึงและไม่สามารถติดต่อได้

              พวกเขาจึงพากันมาพิสูจน์เรื่องราวนี่อีกครั้งหนึ่งโดยในครั้งนี้พวกเขาได้นำกล้องมาถ่ายระหว่างที่มีการขับรถบนสะพานหลังจากนั้นก็พากันกลับบ้านแล้วไปเปิดดูกล้องปรากฏว่าพวกเขาเห็นหน่อวิญญาณมากมายพากันยืนอยู่ตรงบริเวณสะพานยางิยาม่า เต็มไปหมดและหนึ่งในวิญญาณเหล่านั้นก็มีเพื่อนของเขาที่หายไปปะปนอยู่ในนั้นด้วย 

 

สนับสนุนโดย.  ae บาคาร่า

ความโหดเฮี้ยมของ อลิซาเบธ บาโธรี่

อลิซาเบธ บาโธรี่ หลังจากที่เธอนั้นได้แต่งงงานและได้ของขวัญอย่างมากมายโดยของขวัญแต่งงานชิ้นที่เธอนั้นได้จากสามีของเธอก็คือปราสาทหลังใหญ่

ซึ่งในปราสาทนี้แหละต่อมามันก็จะเป็นเหมือนกับสวนสนุกที่ทำให้เธอได้สนุกกับการทรมานหญิงสาวต่างๆปัจจุบันนี้ปราสาทหลังนี้ได้อยู่ที่ประเทศสโลวาเกียแต่ก็มีลักษณะสภาพที่ผุพังแล้วใครที่จะไปเที่ยวก็ต้องจินตนาการกันใหม่ว่าในสมัยก่อนมันลักษณะเป็นอย่างไร

 

นอกจากนี้หลังจากที่อลิซาเบธ บาโธรี่ได้แต่งงานแล้วและได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นการปกครองการเมืองเนื่องจากว่าสามีของเธอนั้นจะต้องออกไปข้างนอกอยู่บ่อยๆเพราะว่ามันเป็นช่วงยุคสมัยที่ฮังการีไปทำการรบกับออตโตมันดังนั้นหน้าที่ในการดูแลบ้านเมืองจึงได้ตกมาอยู่ในมือของ อลิซาเบธ บาโธรี่ 

ซึ่งฝีมือในการปกครองบ้านเมืองของเธอนั้นว่ากันว่าเธอทำได้ดีเลยทีเดียวประชาชนของเธอในสมัยนั้นก็เรียกได้ว่ามันไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากขัดกับอาณาจักรต่างๆรอบๆที่เศรษฐกิจค่อนข้างขาดแคลนประชากรไม่มีอะไรกินและที่มันได้เป็นแบบนี้ก็เพราะส่าสามีของ อลิซาเบธ บาโธรี่ เปย์หนักมาก

โดยสามีของเธอนั้นบอกเลยว่ามีฝีมือในการรบมากจนได้ฉายาว่าอัศวินดำกล่าวก็คือแค่หน้าตาของสามีเธอก็สามารถที่จะข่มศัตรูได้แล้วทุกครั้งที่ได้ออกไปรบก็จะนำสมบัติต่างๆนานามาให้นางถึงแทบเท้ากันเลยจึงทำให้นาง อลิซาเบธ บาโธรี่ ได้มีกินมีใช้อย่างไม่ขาดสายอาณาจักรเรียกว่าอยู่ได้ถึงขนาดที่ว่าได้มีอาณาจักรอื่นมากู้เงินเพื่อไปใช้ในดินแดนของเขาอีกด้วยเราได้เล่าให้ฟังว่าอาณาจักรของอลิซาเบธ บาโธรี่นั้นร่ำรวยขนาดไหน

เนื่องจากนี้เรามาดูในเรื่องของความโหดของ อลิซาเบธ บาโธรี่ กันดีกว่าว่ากันว่าคนที่เปลี่ยนจาก อลิซาเบธ บาโธรี่ ให้กลายมาเป็นนักทรมานก็คือสามีของเธอนั่นแหล่ะที่ได้มอบกุญแจไขเข้าไปสู่โลกของความมืดสามีของนางเขาก็ได้เริ่มสอนวิธีต่างๆแนะนำการทรมานทั้งหลายให้แก่ อลิซาเบธ บาโธรี่ ยกตัวอย่างเช่นเอากระดาษไปชุบน้ำมันไปวางที่ง้ามขาของผู้เคราะห์ร้ายแล้วก็เริ่มเผา

ดังนั้นผู้เคราะห์ร้ายก็จะเริ่มร้องโหยหวยเมื่อได้เห็นไฟมันได้ลุกเข้ามาใกล้ๆเท้ามากขึ้นหรืออีกตัวอย่างหนึ่งก็อย่างเช่นสามีของเธอนั้นได้ซื้อของขวัญให้เธออีกชนิดหนึ่งให้นางนั่นก็คือถุงมือกรงเล็บโดยอลิซาเบธ บาโธรี่ได้ใช้ถุงมือนี้ขุดเอาเนื้อหนังของผู้ที่ถูกทรมานนานวันเข้าเธอได้ยินเสียงทรมานพวกนี้เธอก็รู้สึกชอบใจและก็เพิ่มความดหดเข้าไปอีก

 

สนับสนุนโดย.    aecasino

อันตรายจากการใช้งาน คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ

สำหรับวันนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับภัยอันตรายจากการที่เรานั้นได้ใช้คอมพิวเตอร์ที่เป็นเวลานานๆกันนั่นเอง เชื่อว่าขณะนี้คอมพิวเตอร์นั้นได้เข้ามามีอิทธิพลมากต่อชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งในการใช้คอมพิวเตอร์นั่นเองที่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนเรานั้นได้ออกกำลังกายน้อยลง

โดยอันเนื่องมาจากส่วนใหญ่แล้วการที่เรานั่งทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์จะเป้นการนั่งทำงานอยู่กับที่ซึ่งมันก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้ หนึ่งในโรคที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราก็คือ คอมพิวเตอร์วิสชั่น ซินโดม หรือที่เรียกว่าโรคซีวีเอส ก็คือคนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ

อาจจะเกินสองหรือสามชั่วโมง มักจะมีอาการแสบตาตา อาการปวดบริเวณตา หรืออาจจะทำให้ตามัวและจะเกิดได้บ่อยครั้ง  ซึ่งในบางทีจะมีอาการปวดศรีษะบ้างด้วย สาเหตุก็คือเกิดจากการมองทั้งภาพ และพิมเอกสารสลับกันตจลอดเวลา รวมทั้งระยะห่างที่แตกต่างกันในการมองเห็นของวัตถุทั้งสาม อาจจะส่งผลทำให้สายตาของเราต้องทำการปรับโฟกัสตลอดเวลา

ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความล้าของสายตา นอกจากนี้แล้วการที่เราใช้สายตาเพ็งอะไรนานๆ ยังอาจทำให้ตาของเรานั้นแห้ง ซึ่งมันก็จะเกิดการละคายเคืองของตาได้ 

สำหรับการแก้ไขและการป้องกันการเกิดอันตรายต่อตาโดยตรงจาการใช้คอมพิวเตอร์เป้นเวลานานๆ 

1.คุณควรที่จะฝึกกระพริบตาบ่อยๆ ในขณะที่คุณนั้นทำงานกับหน้าจอของคอมพิวเตอร์ และถ้าหากว่าคุณนั้นแสบตามากๆก็อาจจะที่จะใช้น้ำตาเทียมเพื่อมาช่วยก็ได้ 

2.ควรที่จะปรับห้องของคุณและบริเวณทำงานโดยอย่าให้มีแสงสะท้อนจากหน้าต่างหรือว่าหลอดไฟที่อยู่บริเวณเพดานของห้อง โดยสะท้อนเข้าตา

3.ไม่ควรที่จะหันจอภาพเข้าหน้าต่างโดยเด็ดขาด

4.ควรที่จะใช้แผ่นกรองแสงวางบริเวณหน้าจอหรือว่าควรที่จะใส่แว่นกรองแสง 

5.จัดวางคอมพิวเตอร์ของคุณให้เหมาะสมโดยจะต้องอยู่ในระยะที่สายตาของคุณนั้นมองได้สบายๆ

6.ควรที่จะปรับเก้าอี้นั่งให้พอดิบพอดี ซึ่งส่วนใหญ่ผู้สูงอายุที่ทำการใช้แว่นตาสองชั้นนั้น จะต้องทำการตั้งจอภาพเพื่อให้ต่ำกว่าระดับของตา เพื่อจะให้ตรงเข้ากับเลนแว่นตาของผู้สูงอายุ

7.หากว่ามีสายตาที่ผิดปกติ หรือรอบตามีบางอย่างอยู่ ควรแก้ไขหรือว่าทำการรักษาโรคที่เป็นอยู่ควบคู่ไปด้วย

8.หากว่างานในหน้าที่จะต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันทุกหนึ่งถึงสองชั่วโมงควรที่จะมีการพักสายตาโดยทำการละสายตาจากหน้าจอจากนั้นให้มองออกไปไกลๆหรือจะหลับตาสักระยะหนึ่งแล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามคุณควรที่จะพักสายตาก่อนและบ่อยครั้งก่อนที่สายตาของคุณนั้นจะเกิดปัญหาอื่นๆตามมา

 

ขอขอบคุณ  หวยดี    ที่ให้การสนับสนุน