วันนี้เราจะมาสอนความเข้าใจขั้นพื้นฐาน ที่เป็นทิดสะดี แล้วจากนี้นเราก็มาลองลงมือ ทำกับแบบจริงๆกันเลย โดยโจทย์วันนี้ก็จะเป็นการสอนฝึกถ่ายภาพ ของน้ำตกจากนั้นก็จะใช้ทั้งสาม โหมดนี้ หมดถ่ายภาพ A เรารับประกันเลยว่าถ้าอ่านจบทั้งหมดที่แนะนำนี้ คุณจะเข้าใจพื้นฐานและสามารถที่จะถ่ายภาพได้ทั้งหมดแน่นอน
โหมด A , Aperture Priority
โหมด A ถือได้ว่าเป็นโหมดกึ่งอัตโนมัติที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด ชื่อเต็มก็คือ โหมด A , Aperture Priority โดยเหตุผลที่เราจะต้องบอกชื่อเต็ม เพราะว่าเราจะได้เข้าใจว่าโหมดนี้มีการตั้งชื่อไปทำไม มีเหตุผลอย่างไร โหมด Aคือกล้องจะให้เราตั้งค่ารูรับแสงเองนะ คือว่าเขาจะรับค่ารูรับแสงตามแบบที่เราต้องการ
ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่เราถ่ายภาพพอตเทรต เราอยากจะละลายหลัง เยอะๆใช่ไหม เราก็จะตั้งแบบรูรับแสง f1.4 ค้างไว้ตลอดนะ ที่เหลือกล้องเขาจะเซ็ตให้เรา ถ้าเป็น iso เราก็จะสามารถุที่จะตั้งออโต้ได้ หรือว่าถ้าเป็นเชสเตอร์สปีด กล้องก็จะคำนวณให้เลย
เพราะฉะนั้นเวลาที่เราถ่ายภาพอะไรก็ตาม ที่เราอยากที่จะเน้นไปที่ละลายฉากหลัง หรือเราเจาะจงแล้วว่าเราอยากได้ รูรับแสงเท่านี้ตลอดการถ่ายภาพนะ เราก็ควรที่จะเลือกใช้ แค่ โหมด A ก็พอนะ เราก็ถ่ายรูปไปเลย ที่เหลือกล้องเขาจะคิดให้ โหมดนี้อ่ะจริงๆใช้ได้ทั้งการถ่ายภาพพอตเทรต ที่เป็นภาพบุคคลหรือว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวนี่แหละ
แล้วเราไม่อยากคิดอะไรเยอะ อยากได้รูรับแสงที่ละลายหลังสวยๆ แบบนี้ก็ตั้งเอาไว้เลย แล้วเดินถ่ายภาพเลยไม่ต้องคิดอะไรมาก
เวลาที่เราถ่ายจริง เวลาที่เราทำการถ่ายภาพนั้นเราก็จะกำหนด ว่าเรานั้นอยากที่จะได้การละลายฉากหลังเท่าไหร่ ถ้าเราเปิดไปที่ f2.8 มันก็จะละลายหลัง เยอะเหมือนกัน เราก็ต้องลองที่จะตั้งดู จากนั้นก็ลองกดดู จากนั้นก็ลองถ่ายเทียบกับ ขนาดอื่นๆดู จะได้มองว่าตนนั้นชอบขนาดได้กันแน่
แต่สำหรับตัวของเรามองว่า f8 นั้นมันมีภาพที่ชัดทั้งภาพ การละลายมันจะค่อนข้างน้อย ถ้าเป็น f2.8 นั้นมันจะเบลอเยอะกว่า ซึ่งสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญว่าเราควรที่จะเลือกโหมดเอนั้นไปใช้กับอะไร นั่นก็คือเราจะเน้นไปที่การละลายฉากหลัง ไม่ว่าจะถ่ายภาพไหนการตั้งค่าจะทำให้กล้องจับจุดให้เองอัตโนมัติ
ยิ่งเราตั้งค่ารูรับแสงน้อยเท่าไหร่ ตัวชัดเตอร์ก็จะตั้งค่าชัดเตอร์สปีดให้เองเรียบร้อย ยิ่งถ้าตั้งออโต้ด้วยแล้ว ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
สนับสนุนโดย. แทงหวยจับยี่กี