คลังเก็บหมวดหมู่: ตำนาน

ค้นพบสุสานอียิปต์โบราณอายุมากกว่า 2, 500 ปีมีโลงศพในนั้นถึง 13 โลงด้วยกัน 

       เมื่อวันที่ 8 เดือนกันยายนปีพุทธศักราช 2563 มีการพูดถึงกันในโลกออนไลน์  เกี่ยวกับเรื่องของการที่มีการไปพบแหล่งโบราณคดีซึ่งเป็นสุสานที่ประเทศอียิปต์โดยการค้นพบในครั้งนี้ค้นพบที่กลางทะเลทรายในเมือง ซัคคารา ซึ่งสุสานแห่งนี้เป็นสุสานขนาดใหญ่อยู่กลางทะเลทรายเลยทีเดียวและเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้รวมตัวกันไป

ขุดสุสานดังกล่าวขึ้นมาก็พบว่ามีโรงศพซึ่งเป็นลักษณะของโรงไม้แบบโบราณอยู่ภายใต้สุสานเป็นจำนวนมากโดยสามารถนับได้ถึง 13 โลงด้วยกัน และแน่นอนว่าจากการสำรวจโลงศพแต่ โลงนั้น สภาพของโรงศพนั้น ยังคงความสมบูรณ์เอาไว้  อีกทั้งโลงศพทั้ง 13 โลงศพนั้น

ก็ได้มีการปิดผนึกไว้เป็นอย่างดีเรียกได้ว่าสภาพที่เห็นนั้นสมบูรณ์มากๆแต่เมื่อมีการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องของอายุแล้วพบว่าโลงศพนี้มีอายุมามากกว่า 2500 ปีแล้วซึ่งนับได้ว่าเป็นการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนโดยปกติแล้วการค้นพบโลงศพของฟาโรห์ของประเทศอียิปต์นั้นปกติจะพบแค่สุสานละ 1 โลงศพเพียงเท่านั้นแต่ครั้งนี้เป็นการพบแบบหมู่ซึ่งมีมากถึง 13 โลงกันนับได้ว่าเป็นสุสานที่มีขนาดใหญ่อย่างมากเลยทีเดียว 

       สำหรับการค้นพบโลงศพในครั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ที่ได้เข้าไปสำรวจระบุว่าสภาพโดยรวมแล้วทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากๆขนาดสีที่ใช้ทาโลงศพก็ยังไม่จางหายไปทางด้านนักวิทยาศาสตร์ยังสามารถมองเห็นได้ว่าสีต่างๆที่มีการออกแบบหรือลวดลายต่างๆบนโลงศพนั้น

ยังคงมีอยู่ให้เห็นอย่างชัดเจนอย่างไรก็ตามแต่การค้นพบในครั้งนี้ยังไม่มีความสมบูรณ์เนื่องจากว่าทางด้านนักวิทยาศาสตร์ที่เข้าไปค้นสุสานโบราณแห่งนี้ต่างก็ยังเห็นว่ายังมีอีกหลายจุดที่ยังไม่ได้ค้นหาและยังเห็นว่ามีอีกประมาณ 3 จุดที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นโพรงขนาดใหญ่

ซึ่งถ้าหากมีการขุดเข้าไปก็อาจจะพบโลงศพเป็นจำนวนมากก็เป็นไปได้ดังนั้นทางด้านนักวิทยาศาสตร์และนักโบราณคดีจึงพากันที่จะเข้าไปสำรวจเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าท้ายที่สุดแล้วโรงศพของฟาโรห์จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเท่าไหร่สำหรับทะเลทรายของเมืองซัคคาร่าแห่งนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเชื่อกันว่าแต่เดิมนั้นที่นี่คือเมืองเมมฟิสเป็นสถานที่ที่ฟาโรห์ทุกพระองค์จะต้องมีการมาสร้างสุสานเอาไว้

ซึ่งเมืองเมมฟิสนั้นในอดีตนับได้ว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศอียิปต์เลยก็ว่าได้  โดยปกติแล้วเวลาที่ฟาร์โรจะฝังตัวเองนั้นจะต้องมีลูกน้อง ข้าราชบริพาร ตายตามมาเฝ้าด้วย ซึ่งต้องรอนักโบราณคดี สำรวจด้านในโลงศพว่าศพเหล่านั้นเป็นศพของใคร

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี ruay

ตำนานยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์

สำหรับเรื่องราวของทุ่งโล่งที่โดนยักษ์ถล่มเป็นเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นภายในกรุงเทพของเราเองนี่แหละกล่าวคือในสมัยก่อนก็ได้มียักษ์สองตัวที่ไม่ถูกกันได้เข้ามารบกันจนกระทั่งทำให้บ้านเมืองด้านล่างพังไม่เหลืองซากเลยที่แห่งนี้ก็เลยได้ชื่อท่าเตียนในเวลาต่อมา

ซึ่งเรื่องมันได้เกิดมาจากยักษ์สองตัวก็คือยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์คือสมัยก่อนเจ้ายักษ์ของตัวนี้มันจะเป็นเพื่อนกันแต่ทว่ายักษ์วัดโพธิ์การเงินขัดข้องก็เลยได้พาสังขารได้ข้ามไปยืมเงินจากพระวัดแจ้งและยักษ์ที่วัดแจ้งเขาก็เป็นเพื่อนกันพอไปถึง็ให้มาด้วยดี

เนื่องจากนี้ในเวลากลางคืนยักษ์วัดโพธิ์ก็ได้เงียบไปเลยจึงได้ทำให้ยักษ์วัดแจ้งต้องข้ามแม่น้ำกลับมายังอีกฝั่งเพื่อจะมาท้วงเงินคืนแต่ทว่ายักษ์วัดโพธิ์ก็ได้ใช้วิธีไม่มีไม่หนีไม่จ่ายสุดท้ายทั้งสองเพื่อนรักก็เลยได้มาเปิดศึกเพื่อนรักกันในที่สุดและด้วยความที่ว่าสองตัวเป็นยักษ์ก็เลยทำให้การที่ต่อสู้กันไปโดนข้าวของที่อยู่ด้านล่างกระจายกันไปหมดยักษ์วัดพระแก้วที่อยู่ในบริเวณนั้นก็เลยต้องเข้ามาห้ามแต่มันก็สายเกินไปแล้วพวกมนุษย์แล้วก็สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ข้างล่างตายเรียบหมด

ซึ่งเรื่องราวในความเดือดร้อนครั้งนี้มันได้ถึงหูพระศิวะจากนั้นพระศิวะก็เลยนจะต้องบินลงมาสาปเจ้ายักษ์สองตัวนี้ให้ราบจำจากนั้นยักษ์ทั้งสองตนก็ได้ถูกสาปให้กลายเป็นหินยักษ์วัดโพธิ์ก็กลายเป็นหินที่ทำหน้าที่เฝ้ฝาพระอุโบสถ์ของวัดโพธิ์ส่วนวัดแจ้งก็เช่นกันไปยืนเฝ้าพระวิหารของวัดแจ้งแข็งเป็นหินอยู่เรื่อยมาแต่ทว่ายักษ์พระแก้วทำไมถึงได้กลายมาเป็นหินได้ทั้งๆที่ไปห้าม

นอกจากนี้เรื่องของน้ำตาพญานาคที่ประเทศไทยของเรานั้นก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่จะเป็นจุดชมวิวเป็นหน้าผาให้เขาถึงไปถ่ายรูปโดยวิวมันจะสวยมากแต่ทว่าหากว่าสังเกตดูรูปร่างของน่าผาแห่งนี้ก็จะรู้สึกน่ากลัวอยู่เหมือนกันเพราะว่ามันจะเหมือนกับส่วนหงอนสัตว์อะไรสักอย่างที่งอกออกมานั่นก็คือชิ้นส่วนของหงอนของพญานาคสสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราที่หมู่เกาะพีพี

โดยการที่จะเดินขึ้นไปนั้นโหดพอสมควรทำขาล้าได้เหมือนกันเอาเป็นว่าถ้าใครมีร่างกายที่ไม่พร้อมแล้วเดินขึ้นไปก็อาจจะกลับมาตะคริวกินขาก็ได้แล้วในระหว่างทางที่เดินขึ้นไปมันจะมีบ่อน้ำอยู่มันก็จะเป็นบ่อขนาดเล็กเท่านั้นแต่เรื่องที่มันน่าแปลกใจก็คือเจ้าบ่อน้ำแห่งนี้มันจะมีน้ำตลอดปีแล้วก็เป็นน้ำที่ใสมาก

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าน้ำในบ่อน้ำแห่งนี้ไม่ใช่น้ำที่ธรรมดาแต่ว่าเป็นน้ำตาของพญานาคที่ได้สละน้ำตาเอาไว้เพื่อบูชาความรักของตัวเอง

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์บาทละ 1000

ตำนานนรสิงห์ครึ่งสัตว์สังหารยักษ์

ซึ่งคำว่านรสิงห์มาจาก นร มนุษย์บวกกับคำว่าสิงห์เรื่องนี้ได้บันทึกอยู่ในคำภีร์ในหลายๆคำภีร์ในศาสนาฮินดูิงห์ได้เป็นภาคอวตารภาคหนึ่งของพระนารายณ์

สาเหตุที่พระนารายณ์ได้แบ่งตัวลงมาเป็นอสูรน่ากลัวแบบนี้ก็เพราะว่าพระนารายณ์ต้องการที่จะไปกำกัดยักษ์ตนหนึ่งเรื่องนี้ท่าจะให้เล่าก็ต้องท้าวความไปก่อหน้านี้

กล่าวคือแต่ก่อนนี้มันก็มียักษ์อยู่สองตนซึ่งมันก็มีอำนาจมากหิรัญกษัตริย์และหิรัญฮูทั้งสองตัวนี้มันเป็นพี่น้องฝาแฝดกันเป็นพี่น้องที่มีความโหดร้ายมาก

เริ่มแรกเดิมที่เจ้ายักษ์ตัวพี่มันต้องการที่จะยึดครองโลกเสร็จแล้วมันก็ได้ใช่อำนาจของมันกร่างยึดครองโลกไปโดยวิธีไหนรู้หรือไม่มันม้วนแผ่นดินโลกแล้วก็หนีไป

เมื่อยักษ์ตนพี่ได้ม้วนโลกหนีไปก็เลยเดือดร้อนไปถึงเสาร์อาทิตย์พระนารายณ์ก็เลยอวตารร่างลงมาเป็นหมูป่าเพื่อที่จะมากำจัดเจ้ายักษ์ตัวนี้ด้วยความที่ว่าข้างใต้รักแร้ของเจ้ายักษ์ตัวนี้ข้างหนึ่งมันได้เหน็บแผ่นดินโลลกอยู่มันก็เลยต่อสู้ไม่ถนัดพระนารายณ์ที่อวตารร่างเป็นหมูป่าขาวขวิดจนยักษ์สิ้นตายพอตายแล้วแผ่นดินโลกมันก็ล่นลงมาพระนารายณ์ในขณะนั้นร่างเป็นหมูอยู่ก็ได้นำจมูกไถกลางแผ่นดินโลกออก

ซึ่งเมื่อยักษ์ตัวพี่ได้จากไปยักษ์ตัวน้องก็ขึ้นมากร่างแทนที่นี่เจ้ายักษ์หิรัญฮูยักษ์ตัวน้องเห็นว่าพี่ได้ตายลงไปแล้วและก็ได้เห็นฤทธิ์อำนาจของพระนารายณ์ว่าเก่งขนาดไหน

ดังนั้นก่อนที่ยักษ์ตัวน้องจะกร่างยักษ์ตัวน้องก็ไปเพิ่มพลังและก็ได้บําเพ็ญเพียรและก็ได้ทำให้เหล่าเทพนั้นสงสารและเจ้ายักษ์ตัวนี้ก็มองไปที่พระพรหมก็ไปบําเพ็ญเพียรกิริยาถาวายต่อพระพรหมในทุกท่าเลยและสุดท้ายก็ตามเรื่องอินเดียหลังจากที่เจ้ายักษ์ได้ไปบําเพ็ญเพียรตบะมานานในที่สุดพระพรหมก็เห็นใจพระพรหมก็เลยเสด็จลงมทาแล้วก็ถามว่าบําเพ็ญเพียรมาเยอะขนาดนี้แล้วเจ้าอยากได้อะไรข้าจะให้พรเจ้า

นอกจากนี้เมื่อพระพรหมได้เสด็จลงมายักษ์ตัวน้องก็เข้าแผนในที่สุดท่านก็จะประทานพรให้ข้าแล้วถ้าใครชอบเรื่องเทพตำนานของอินเดียก็จะทราบกันดีว่าถ้าเกิดมีใครที่ไหนขอพรหรือสาปแช่งอะไรเมื่อไร่ล่ะก็จุดของเรื่องมันก็จะมาอยู่ตรงนั้น

โดยมันจะขอดีๆก็ไม่ได้มันข้อแล้วจะต้องมีข้ออ้างว่าแบบนู้นแบบนี้ไม่ตายแต่ว่าในคำว่าแต่มันจะนำมาด้วยความชิบหายในภายหลังจากนัว้นยักษ์ตนนี้ก็ได้ขอพรจากพระพรหมขอให้ข้าเป็นอมตะไม่มีอาวุธใดที่จะสังหารข้าได้ไม่ว่าจะเป็นอาวุธจากสัตว์เทวดาและข้าก็จะต้องไม่ตายทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนจะไม่ตายทั้งในเรือนและนอกเรือนไม่ว่าจะบนดินหรือท้องฟ้า

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ไม่มีขั้นต่ำ

ประวัติ ของHippocrates

ใครเคยได้ยินการรักษาโรคต่างๆที่เป็นความเชื่อแบบผิดๆน่าสยองแล้วไม่น่ารักษาอะไรต่างๆได้เลยไหมวันนี้เราจะบอกว่าเราไปเจอการรักษาอีกอย่างหนึ่งมาที่น่าสนใจเป็นอย่างมาแล้วเราจะนำเอามาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันก็อย่างที่เราได้เกริ่นไปเมื่อกี้เลย

ซึ่งต้องบอกแบบนี้เลยว่าในโลกเรานั้นแน่นอนว่าเรื่องอาการเจ็บป่วยเป็นเรื่องปกติใช่ไหมและเราทุกคนก็ต้องเจ็บป่วยเช่นเดียวกับคนในสมัยโบราณและแน่นอนเมื่อมีการเจ็บป่วยก็จะต้องมีการรักษาแต่ในสมัยโบราณด้วยความที่เทคโนโลยีทางการแพทย์อะไรต่างๆยังไม่ได้มีการพัฒนาในแบบปัจจุบัน

ดังนั้นในสมัยโบราณเขาก็จะต้องมีการรักษาการเจ็บป่วยตามความเชื่อของเขามากมายหลากหลายวิธีโดยบางวิธีก็เป็นวิธีที่ดีเป็นนวัตกรรมของคนโบราณใช้ยาสมุนไพรอะไรต่างๆและในบางวิธีก็เป็นวิธีที่เราในฐานะคนปัจจุบันที่มีความรู้ทางด้านการแพทย์ค่อนข้างที่จะดีกว่าคนในสมัยก่อนนี่เราจะต้องรักษากันแบบนี้จริงๆหรอ

ซึ่งต้องบอกว่าพวกวิธีรักษาพวกนี้มีหลายต่อหลายวิธีเลยทีเดียวตอนแรกหลังจากที่เราไปเจอข้อมูลมาเราก็เลยอย่างจะเล่าวิธีในการรักษาในสมัยโบราณแต่ว่าข้อมูลมันเยอะเกินไปและขอบอกเลยวว่าการรักษาแต่ละวิธีมันพีกมาก

ดังนั้นเป็นวิธีการรักษาสุดสยองของคนสมัยโบราณ

โดยวันนี้เราก็ได้มาพร้อมกับวิธีแรกกันเลย กรีดเลือดรักษาโรค 

ซึ่งต้องบอกว่าการขับเลือดเสียออกเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่เก่าแก่ที่สุดที่เกือบที่สุดของมนุษยชาติเลยทีเดียวเพราะว่าการขับเลือดเสียเพื่อรักษาการบาดเจ็บอาการป่วยหรือว่าอะไรต่างๆเป็นการรักษาที่มีอายุยาวนานมากๆเขาว่ากันว่า วิธีการรักษานี้น่าจะมีขึ้นมาตั้งแต่ในสมัย เมโสโปเตเมีย เราคงจะจำกันได้ใช่ไหมอารยธรรม เมโสโปเตเมีย อารยธรรมแรกของมนุษย์เขาบอกว่ามีมาตั้งแต่สมัยของชาวสุเมเรียนที่เป็นคนคิดค้นอักษรลิ่มคูนิฟอร์มอักษรแรกของโลก

นอกจากนี้เขาได้บอกว่าการรักษาด้วยการขับเลือดน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยสุเมเรียนแล้วก็สืบต่อมาจนกระทั่งถึงสมัยอียิปต์โบราณอย่างไรก็ตามในการรักษาด้วยวิธีนี้มันมาเฟื่องฟูสุดขีดในช่วงยุคสมัยของกรีกโบราณและในการขับเลือดเสียออกจากร่างนี่มันก็มาโด่งดังเพราะทฤษฎีของหมอชาวกรีกโบราณคนนึงคนนี้เขาชื่อว่าHippocrates 

ซึ่งHippocrates คนนี้เขาเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากๆเลยทีเดียวพราะว่าเขานั้นถือว่าเป็นบิดาแห่งการแพทย์ การรักษาการยาเลยทีเดียวโดยทฤษฎีของเขาได้บอกว่าร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วย4ธาตุด้วยกันได้แก่ดินน้ำลมไฟฟังดูจะจีนๆหน่อยแต่มันคือทฤษฎีของกรีกโบราณ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ขายหวยออนไลน์

หลอนตำหนักพระองค์หญิงขาว

สำหรับเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่ได้หายตัวเข้าไปในพื้นที่ก่อสร้างที่เขากำลังบูรณะกันอยู่จากนั้นพ่อและแม่ก็ได้วิ่งตามหาลูกที่ได้วิ่งหายไปและก็พบตัวลูกแล้วปรากฏว่าพ่อและแม่ก็ได้ถามลูกว่าไปทำอะไรมาพร้อมกับเสียงหัวเราะและได้บอกว่าก็ไอจุกคนนั้นมันนุ่งโจรกระเบนมาแล้วมันก็ได้มาเล่นกับหนูทุกวันนี่แหละ

จากนั้นพ่อและแม่ได้ฟังแบบนี้แล้วเด็กหัวจุกนุ่งโจรกระเบนอยู่ก็เงียบไปพักหนึ่งแล้วก็คิดว่าเด็กคนนี้มันมาจากไหนยังไม่ทันหายอึ้งเลยอยู่ลูกก็บอกว่านั่นไงไอจุกมันอยู่ข้างหลังพ่อและแม่พอได้ยินก็รีบหันไปทันทีพร้อมกับน่าตาที่ตื่นกลัว

แต่ทว่าสิ่งที่พ่อและแม่ที่ได้เห็นนั้นมันกลับเป็นความว่างเปล่าในความมืดหลังจากนั้นก็รีบจับแขนลูกรีบกลับเข้าห้องคนงานเลยทีเดียวลูกชายก็บ่นว่าแม่หนูเจ็บทำไมต้องลากแบบนี้ด้วยพ่อแม่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรเลยพร้อมกับบอกอีกด้วยว่าห้ามไปเล่นกับไอจุกนั่นอีกลูกชายก็สงสัยว่าทำไมล่ะหนูก็เล่นกับไอจุกมาตั้งหลายวันแล้วก็จะไม่เห็นมีอะไรเลยพ่อแม่ก็พูดอะไรไม่ออกเลยได้แต่บอกว่าเชื่อฟังพ่อแม่ดีแล้วลูก

นอกจากนี้เรื่องที่ได้สยองก็คือครั้งหนึ่งได้มีคนงานมาดื่มเหล้าจนหนักแล้วเมานอนหลับอยู่บริเวณชั้นล่างเลยนอนกองเหมือนหมาเลย

ซึ่งบริเวณที่คนงานเขาได้เข้าไปนอนอยู่นั้นมันก็เป็นบริเวณที่ใกล้ๆกับรูปภาพ เสด็จพระองค์หญิงขาว ที่พระองค์ได้เสียชีวิตไปแล้วปรากฏว่ารุ่งเช้าขึ้นคนทำงานคนนี้ที่ไปนอนเมาอยู่ตรงนี้นั้นก็ถูกพบสภาพกลายเป็นศพไปแล้ว

โดยสาเหตุการตายก็ไม่มีใครทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เนื่องจากเขามีเรื่องของปัญหาของสุขภาพหรือเปล่าหรือว่าเขาไปทะเลาะกับใครแล้วโดนฆาตกรรมมันก็เลยทำให้ทุกคนต่างก็คิดไปต่างๆนาๆว่ามันอาจจะเป็นไปได้ว่าคนงานคนนี้ไปทำเรื่องราวที่มันไม่เหมาะสมแล้วก็ไปนอนสภาพไม่ดีต่อรูปภาพของพระองค์หญิงขาวก็เลยถูกลงโทษ

สำหรับเรื่องราวแปลกก็ทำให้ผู้คนได้พบเห็นกันจนทำให้ขนลุกกันมากมายจนกระทั่งได้มีคนงานบางคนถึงขนาดที่เก็บกระเป๋าออกไปในวันรุ่งขึ้นแล้วของไม่รับค่าจ้างขอเอาชีวิตตัวเองเอาไว้ก่อนแล้วกลับต่างจังหวัดไปเลยเอาเป็นว่าเรื่องราวแปลกๆที่ผู้คนเขาได้พบเจอกันมากมายมันก็เลยทำให้การบูรณะพระตำหนักนี้ถึงกลับล่าช้าไปเป็นเวลานาน

นอกจากนี้หลังจากที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมอะไรกันจนเสด็จแล้วเรื่องราวความหลอนในนี้ก็ยังไม่ได้หายไปไหนตำหนักนี้ก็ได้กลายเป็นหอพักชาติไทย

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์บาทละ 950

ลัดดาแลนด์เป็นเรื่องจริงหรือแต่ง?

เวลาที่เราพูดถึงเรื่องของลัดดาแลนด์เราเชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ที่คนสมัยก่อนได้ให้ความสนใจและโด่งดังมากๆ

เมื่อประมาณปี2554ทางGTHก็ได้นำเนื้อเรื่องของลัดดาแลนด์ตรงนี้มาดัดแปลงทำเป็นหนังผีเพราะว่าหมู่บ้านลัดดาแลนด์หรือตำนานลัดดาแลนด์ตรงนี้มันมีเรื่องราวที่น่าสนใจและมันมีเรื่องของตำนานที่บอกต่อๆกันมาว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับการฆาตกรรมเกิดขึ้นแล้วทำให้คนได้เห็นเหตุการณ์แปลกๆอยู่มาเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นทั้งเห็นภาพติดวิญญาณไม่ว่าจะเป็นทั้งเห็นคนที่เสียชีวิตออกมาเดินเรร่อนอยู่กลางถนน

ซึ่งทางGTHเขาก็ได้ดัดแปลงเอามาทำเป็นหนังและแน่นอนว่าหลังจากที่ทุกๆคนได้ดูหนังเรื่องนี้จบหลายๆคนก็จะสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งก็จะมีหลายๆคนได้ไปหาข้อมูลไปหาประวัติต่อเรื่องนี้เราคิดว่ามันค่อนข้างที่จะน่าสนใจเลยเอามาเล่าให้ทุกคนฟัง

เวลาที่เราพูดถึงตำนานต่างๆเกี่ยวกับสถานที่รกร้างที่มีอยู่จริงหลากหลายในพื้นที่ในประเทศไทยต้องขอบอกเลยว่าแต่ละในสถานที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นตำนานที่มีคนเล่าต่อๆกันมาและได้เป็นตำนานที่ผิดไปจากความเป็นจริงค่อนข้างที่จะเยอะ

ซึ่งหนึ่งในนั้นมันได้มีหนึ่งตำนานที่คนไทยเราได้จำฝังใจแล้วได้บอกต่อๆกันมาถึงขั้นที่ว่าได้มีค่ายหนังค่ายหนึ่งเอาเรื่องนี้ไปทำเป็นหนังเลยก็ว่าได้และหนังเรื่องนั้นก็คือลัดดาแลนด์นั่นเอง

โดยลัดดาแลนด์ที่เราพูดถึงตรงนี้ตามข้อมูลที่เราได้ไปหามานั่นก็คือลัดดาแลนด์เปรียบเสมือนอุทยานการท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อประมาณปี2512

นอกจากนี้ลัดดาแลนด์ที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากเศรษฐีคู่หนึ่งที่ชื่อว่า พล.ต.ประดิษฐ์ กับ คุณนายลัดดา ที่ในยุคนั้นทั้งสองคนมีแนวคิดในการสร้างลัดดาแลนด์ขึ้นมาจากการที่ทั้งคู่ได้ไปเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์แล้วมีความรู้สึกว่าอยากทำให้พื้นที่ในประเทศไทยหรือว่าบ้านเกิดของเขามีความน่าท่องเที่ยวมีความน่าดึงดูดอยากจะให้นักท่องเที่ยวมาในจังหวัดของเขากันเยอะๆให้เหมือนกับที่ดิสนีย์แลนด์

โดยเขาได้มีไอเดียสร้างอุทยานการท่องเที่ยวขึ้นมาแล้วได้ตั้งชื่อว่าลัดดาแลนด์นั่นเองเพราะว่ามันเป็นความคิดที่อยากจะมีคนมาท่องเที่ยวในจังหวัดบ้านตัวเองให้เยอะมากขึ้นอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี lottovip 2ตัว

การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรซิม่า

ทหารญี่ปุ่นชะล่าใจเกินไปจะในช่วงที่ผ่านมาที่มีผู้บัญชาการว่าทหารได้เกิดการผิดพลาดเครื่องบินถูกยิงและก็ทำให้พนังงานตายไปพร้อมกับเครื่องบินใช่ไหม

แต่ทหารได้บินเข้ามาจริงๆมันกลับไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้นมันบินเข้ามาได้อย่างสบายๆมันไม่ใช่ว่าฝ่ายทหารญี่ปุ่นมองไม่เห็นเห็นแต่ด้วยความที่ว่าเขาทำสงครามกันมานานแล้วก็เอาระเบิดมาทิ้งกันเป็นว่าเล่นเลยจนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดา

จากนั้นมันก็ทำให้กองทัพญี่ปุ่นอาจจะเห็นเรื่องนี้จนชินกันไปแล้วพอทหารญี่ปุ่นได้ตรวจพบว่ากองฝูงบินของอเมริกาที่จะบินเขามาทิ้งระเบิด

ซึ่งเป็นฝูงเล็กๆก็เลยคิดว่าเขามาทิ้งระเบิดในการทดลองอีกแล้วก็เลยปล่อยไปและก็หันไปป้องกันอะไรที่มันร้ายแรงกว่านี้ดีกว่าฝูงบินเล็กๆแบบนี้ก็คงจะไม่ใช่ภัยคุกคามอะไรที่ร้ายแรงหรอกและนี่มันก็คือการตัดสิ้นใจที่ผิดพลาดใครั้งใหญ่หลวง

นอกจากนี้หลังจากที่นิวเคลียร์ได้ลงที่ญี่ปุ่นแล้วก็ไม่ใช่ว่ากองทัพของญี่ปุ่นจะรู้ทันทีเลยนอกจากความตายใจในการสกัดกั้นแล้วหลังจากที่ฮิโรชิมาได้ระเบิดเป็นหน้ากองก็ต้องใช้ระยะเวลากว่าสามชั่วโมงกว่าที่ทางกรุงโตเกียวจะรับรู้ว่าที่ฮิโรชิมาได้ถูกทำร้ายราบคาบไปแล้วและในตอนที่รู้ว่าเมืองได้ถูกทำลายก็ยังเข้าใจว่ามันเป็นการทำลายจากระเบิดธรรมดาด้วยซ้ำ

จนในกระทั่งอีก16ชั่วโมงต่อมาจึงได่รู้ว่ามันเป็นระเบิดนิวเคลียร์แล้วก็ไม่ได้รับรู้จากพวกเขาตัวเองด้วยเขาได้ทราบจากทางสหรัฐที่ตอนนั้นเขาได้ประกาศให้ทั่วโลกได้ทราบว่าการโจมตีที่ฮิโรชิม่ามันเป็นการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูในครั้งแรกของโลก

เนื่องจากนี้สงครามโลกยังวุ่นวายไม่พอยังมีรัฐประหารอีกในช่วงสงครามโลกกองทัพญี่ปุ่นก็ได้สั่งระดมพลทั้งหมดทำการเกณฑ์ทั้งผู้ชายและผู้หญิงลูกเล็กเด็กแดงมาเพื่อนำมาจะเป็นกองกำลังในการต่อสู้กับกองทัพสหรัฐที่พวกเขาได้คาดว่าน่าจะบุกขึ้นมาบนแผ่นดินหลังจากที่พวกเขาได้ทิ้งนิวเคลียร์คือเตรียมพร้อมอย่างเรียบร้อยแต่พอเตรียมเสร็จเรียบร้อย

องค์จักรพรรดิก็ได้ออกมาประกาศว่าข้าขอยอมแพ้เรามายุติสงครามกันดีกว่าแท้ที่คนพวกนี้เขาจะยอมแพ้ตามกลับได้มีทหารบางส่วนในพวกนี้เขาไม่พอใจแล้วก็พยายามที่จะก่อการรัฐประหารขึ้น

นอกจากนี้ยังไม่พอยังซวยแล้วซวยซ้ำไม่รู้ว่าเพื่อนๆหลายคนเคยได้ยินเรื่องราวของบุคคลหนึ่งหรอืไม่เราจำชื่อเขาไม่ได้เขาได้รอดจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ที่เมืองฮิโรซิม่าเพราะ่วาเขานั้นได้รีบหลบเข้าไปยังหลุมหลบภัยในช่วงที่มีสัญญาณเตือน

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbb

ผีตีนกลับที่สุพรรณบุรี 

สำหรับเรื่องของผีตีนกลับเราได้ไปค้นหาข้อมูลเราได้พบว่ามันได้มีเหตุการเล่ากันอย่างหลากหลายตำนานมากๆเลยกับเรื่องของผีตีนกลับนี้

ซึ่งบางตำนานก็ว่าเรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นหรือว่าเรื่องนี้มันก็เคยเกิดขึ้นจริงมีคนพบเจอจริงๆแบบนี้ๆแต่เราก็ไมขอฟันธงว่าเรื่องราวเหล่านี้มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ต้องใช้วิจารณาญาณในการอ่านให้ดีๆ

สำหรับเรื่องราวนี้ได้เป็นของชายผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดสุพรรณเรื่องราวที่เขานั้นได้พบเจอกับผีตีนกลับมันไม่ใช่เป็นเพียงแค่การค้นพบเจอแต่อย่างเดียวแต่ว่าวันนั้นที่ชายผู้หนึ่งได้ไปพบเจอผีตีนกลับที่จังหวัดสุพรรณก็ไปกันหลายคนและสิ่งที่พวกเขานั้นได้พบเจอกับผีตีนกลับไม่ได้เป็นการพบเจอเพียงแค่คนเดียวแต่ยังได้มีเพื่อนอีกจำนวน6คนที่ร่วมชะตากรรมที่ร่วมเจอผีตีนกลับที่จังหวัดสุพรรณบุรีนี้ด้วยกัน

โดยเรื่องราวของผีตีนกลับบ้างก็ว่าเป็นผู้หญิงบ้างก็ว่าเป็นผู้ชายบ้างก็ว่าเป็นคนแก่บ้างก็ว่าเป็นหนุ่มแล้วเรื่องราวต่างๆก็เกิดขึ้นมากมายว่ากันว่าคนในพื้นที่นั้นจะเล่ากันอยู่เรื่องหนึ่งนั่นก็คือเรื่องของผีตีนกลับที่ได้มีการพบเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง

ซึ่งได้เป็นผีของพนักงานหญิงผู้หนึ่งหลังจากที่เธอนั้นได้ก้าวเท้าออกจากรถบริษัทเพียงแค่ไม่กี่ก้าวอยู่ๆก็มีรถยนต์กะบะวิ่งเข้ามาชนที่ลำตัวของเธออย่างเต็มๆตัวจนทำให้ร่างกายของเธอบิดกับรูปว่ากันว่าแรงรถที่เข้ามาชชนตัวเธอนั้นมันได้ทำให้ตัวของเธอนั้นบิดกลับด้าน

เนื่องจากนี้มันก็หมายความว่าโดยปกติแล้วปลายเท้าของเราจะชี้ไปด้านหน้าแต่คราวนี้ที่ท่อนล่างของเธอได้ถูกหันกลับไปอีกด้านหนึ่งคุณพอจะนึกภาพกันออกมั้ยว่าปลายเท้ามันได้กลับไปอยู่ด้านหลัง

ในส่วนเรื่องราวของชายผู้หนึ่งและเพื่อนๆที่ได้ไปพบเจอกับผีตีนกลับวันนั้นเขาได้ไปเที่ยวงานวัดที่จังหวัดสุพรรณกันนั่งรถกะทะไปคันเดียวกันพร้อมกับเพื่อนๆของเขาทั้ง6คนพอไปจนงานในช่วงเย็นทุกคนก็เดินเที่ยวงานกันอย่างสบายใจกันเลยเดินดูอะไรไปเรื่อยตามภาษาของวัยรุ่น

เมื่อเวลา5ทุ่มเศษทุกคนก็ชวนกันกลับบ้านและเส้นทางที่พวกเขาใช้ก็เป็นทางถนนธรรมดามันไม่ได้ใหญ่อะไรมากแต่มันก็มีไฟตามท้องถนนเป็นระยะๆแต่มันไม่ได้เป็นแสงไฟที่มันสว่างมากๆก็ถือได้ว่ามีความน่ากลัวในระดับหนึ่งตลอดทั้งเส้นทางท้องถนน

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี หวยดี

คนไทยมาจากเขาอัลไตจริงหรือไม่?

คนไทยมาจากไหนคนไทยมีถิ่นกำเนิดมาจากที่ใดยังเป็นปัญหาที่มีคำตอบแตกต่างกันออกไปหลากหลายแนวที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่แน่นอนตายตัวลงไปได้เราจะมาทำความเข้าใจทฤษฎีคนไทยมาจากไหนว่าแต่ละทฤษฎีจะมีความเป็นมาและน่าเชื่อถืออย่างใดก็อยากให้คุณได้พิจารณาตามกันไป

ทฤษฎีแรก คนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต ทฤษฎีนี้เป็นความเชื่อที่เคยดังของคนไทยเจ้าของความคิดก็คือหมอสอนศาสนาชื่อนายวิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ หรือ หมอดอดด์ ได้ปรากฏในงานเขียนเรื่องThe Tai Race ซึ่งในงานเขียนนี้ได้สรุปว่าคนไทยนั้นได้สืบเชื้อสายมาจากมองโกและได้เป็นชาติเก่าแก่มากกว่าจีน 

ซึ่งคนไทยได้ถูกเรียกว่าอ้ายลาวหรือต้ามุงและเป็นเจ้าของถิ่นเดิมของจีนมาก่อนจีนตั้งงแต่2,200ปีก่อนคริสต์ศักราชฉะนั้นจึงเป็นพี่/อ้ายของจีนต่อมาก็ได้เคลื่อนที่เรื่อยจากทางเหนือเข้ามาแดนจีนและก็ค่อยอพยพครั้งใหญ่นับแต่ตอนกลางของจีนลงมาสู่ตอนใต้และจากจีนตอนใต้เข้าสู่อินโดนจีน

กล่าวกันว่าในบริเวณตอนใต้ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงนั้น หมอดอดด์ ได้เดินทางออกสำรวจเรียบร้อยแล้วทั้งสิ้นแต่ในสิ่งที่นอกเหนือจากนั้นก็ได้อาศัยความคล้ายคลึงทางภาษาไทยเป็นเหตุสนับสนุนเอางานเขียนของ หมอดอดด์ ได้รับความสนใจทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศนักวิชาการไทยคนสำคัญที่ได้สืบทอดความคิดของหมอดอดด์ก็คือ “ขุดวิจิตรมาตรา” 

ซึ่งเขาได้เขียนงานที่มีชื่อว่าหลักไทยได้เป็นหนังสือแต่งทางประวัติศาสตร์และหนังสือนี้ก็ได้รับพระราชทานรางวัลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้ากับประกาศนียบัตรวรรณคดีของราชบันฑิตในปีพ.ศ.2471เลยทีเดียว

นอกจากนี้ในหนังสือหลักไทยนั้นยังได่สรุปว่าแหล่งกำหนดของคนไทยนั้นอยู่ที่บริเวณเทือกเขาอัลไตที่ได้เป็นบ่อเกิดของมองโกด้วยในภายหลังก็ได้แยกออกมาต้นถิ่นภูมิลำเนาใหญ่โตในระหว่างลุ่มแม่น้ำเหลืองและแม่น้ำแยงซีเกียงเรียกว่าอาณาจักรอ้ายลาวจนต่อมาได้ถูกจีนรุกรานจนได้ถอยออกมาเรื่อยๆจนได้เข้าสู่สุวรรณภูมิ

สำหรับในหนังสือหลักไทยได้รับความนิยมสูงมาก จนหลักสูตรไทยได้ใช้เป็นตำราเรียนประวัติศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการเป็นเวลานาน

แต่ในปัจจุบันแนวคิดนี้ได้รับการยอมรับน้อยมากอีกทั้งยังได้ถูกพวกนักวิชาการในบางกลุ่มนั้นแซกแล้วแซกอีกจนไม่รู้ว่าจะแซกไปยังไงกันแล้วเพราะตามหลักข้อสรุปในหนังสือหลักไทยนี้ก็ไม่ได้รับการยอมรับมากสักเท่าไรเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครเคารพในบนสรุปของในหนังสือหลักไทยนี้จึงได้ถูกกลุ่มวิชาการไม่เชื่อตามกันมาเช่นกัน

ตำนานที่มาของอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดในภาคใต้ของไทย

         เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของอำเภอตากใบ ซึ่งเป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคใต้กันมาบ้างแล้ว จากหน้าหนังสือพิมพ์ หรือตาสื่อออนไลน์และทางทีวี ที่นักข่าวจะมีการทำข่าวดังของอำเภอนี้ในช่วงเวลาหนึ่งที่เคยมีข่าวเกี่ยวกับการปราบปรามโจรใต้ที่โด่งดังอยู่ช่วงหนึ่งนั่นเอง ซึ่งอำเภอที่ว่านี้เป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส และวันนี้เราจะมาค้นหาความเป็นมาของอำเภอนี้กันว่า ทำไมที่นี่ถึงเรียกว่าอำเภอตากใบ  

         สำหรับเรื่องเล่านี้ถือว่าเป็นตำนานประจำภาคใต้ที่มีการบอกเล่าต่อต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านทางนิทานปรัมปราพื้นบ้านของภาคใต้ โดยมีการพูดถึงในสมัยก่อนว่ามีพ่อค้าชาวจีนท่านหนึ่งเขานำสินค้าจากเมืองจีนล่องเรือตามแม่น้ำมาเพื่อหวังที่จะนำมาขายในพื้นที่ในเขตมลายู

ซึ่งในขณะนี้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่ไทยและจีนทำการค้ากัน มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่พ่อค้าชาวจีนกำลังขนของที่จะนำมาค้าขายกับไทยและกำลังล่องเรืออยู่นั้น ซึ่งตรงจุดนั้นใกล้ที่จะถึงกับจุดที่จะทำการค้าขายกันอยู่แล้วปรากฎว่ามีฝนตกกำหน่ำลงมารุนแรงมาก

เป็นผลให้คลื่นซัดเรืออย่างหนักพ่อค้าเห็นท่าไม่ดีจึงได้ให้คนงานในเรือชักใบเรือลง เพราะเกรงว่าใบเรือจะขาดแต่พอหลังจากนั้นไม่นานคลื่นก็ซัดทำเรือของพ่อค้าชาวจีนพัง ข้าวของที่ขนมาไว้บนเรือเพื่อจะเอาไว้ขายก็กระจัดกระจายลงสู่ก้นของท้องทะเลทางด้านลูกเรือและพ่อค้าชาวจีนก็ตะเกียกตะกายว่ายน้ำเข้าฝั่ง

ซึ่งทั้งหมดได้ว่าไปที่เกาะแห่งหนึ่งโดยที่พวกเขานั้นไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน แต่เมื่อขึ้นไปแล้วพบว่าที่นั่นมีความอุดมสมบูรณ์มาก เมื่อรอดชีวิตกันแล้ว พ่อค้ากับคนงานของเขาต่างก็พากันเก็บเครื่องถ้วยชามและเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายลอยน้ำมาติดที่ฝั่งแล้วนำไปตากไว้ตามต้นไม้บนเกาะ

ซึ่งสิ่งที่นำไปตากนั้นมีใบเรือรวมอยู่ด้วย ในขณะนั้นเองได้มีชาวบ้านที่เป็นคนมลายูได้มาตัดไม้ที่บริเวณใกล้ใกล้กับจุดที่พ่อค้าตากผ้าอยู่ ชาวบ้านคนนั้นจึงทำทีว่ามาตัดต้นไม้ต้นเดียวกับที่พ่อค้าตากผ้าเพราะหวังว่าจะเอาผ้าที่ติดกับกิ่งไม้ไปด้วย

ปรากฏว่าพ่อค้าและคนงานมาเห็นเข้าจึงได้เข้าจับกุมชายชาวมลายู แต่ชายคนดังกล่าวขอโทษและสัญญาว่าจะไม่ประพฤติตัวแบบนี้อีก พ่อค้าจึงปล่อยตัวไป และพ่อค้าและคนงานก็อาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนั้นเรื่อยมาและมีการเรียกที่พวกเขาอยู่ว่าตากใบ เพราะภาพที่เขาเอาใบเรือไปตากนั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  v9bet