คลังเก็บป้ายกำกับ: dewabet

นายปรีดี พนมยงค์ จัดการกับผู้รุกรานที่ได้ยกพลขึ้นไทย

ภาพยนตร์เรื่องพระเจ้าช้างเผือกที่สร้างขึ้นโดยบริษัทปรีดีภาพยนตร์นี้สร้างขึ้นในแนวบรรยากาศโลกครั้งที่2กำลังกองตัวขึ้นในทวีปยุโปร

แนวคิดปรีดี ในฐานะผู้เขียนบทภาพยนตร์และอำนวยการสร้างพยายามที่จะนำเสนอผ่านภาษอังกฤษเรื่องนี้คือการกระตุ่นย้ำเตือนให้ชาวโลกหลีกเลี่ยงสงครามและให้ตระหนักถึงคุณค่าของการอยู่รวมกันอย่างสันติ

พระจ้าช้างเผือกถ่ายทำณรงถ่ายฟิล์มและในป่าจังหวัดแพร่โดยผู้แสดงส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศึกษาวิทชาธรรมศาสตร์และการเมืองแต่ไม่ทันที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ทำหน้าที่อันสำคัญอย่างยิ่งมหาสงครามโลก

ซึ่งได้กินระยะเวลายาวนานถึง6ปีและได้ฆ่าชีวิตผู้คนไปกล่าว40ล้านคนก็อุบัติขึ้นการเติบโตของระบอบเผด็จการชาตินิยมทั่วโลกนับแต่พุทธศักราช2465เป็นต้นมาได้กลายเป็นชนวนองสงครามโลกครั้งที่2ในที่สุด

เดือน กันยายน 2482 พรรคนาซีเยอรมนีได้เปิดฉากสงครามโดยการนำทัพบุกโปรแลนด์2ปีต่อมาญี่ปุ่นได้โจมตีกองทัพเรือที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ของสหรัฐโลกแบ่งฝ่ายอังษะ

ซึ่งได้นำโดยเยอรมนี อิตาลี และ ญี่ปุ่น กับ ฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยอังกฤษ อเมริกา รัสเซีย และ ฝรั่งเศส  2นาฬิกาของวันที่ 8 ธันวาคม 2484 กองทัพญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกพร้อมกันที่สมุทรปราการและอีก6จังหวัดตลอดชายฝั่งทะเลภาคใต้ทหารตำรวจและพลเรือนไทยต่อสู้อย่างดุดเดือดแต่ก็ยากที่จะต้านทานกองทัพรูปพระอาทิตย์ที่ได้มีความเหนือกว่าทั้งด้านกำลังพลและอาวุธยุทธพันธุ์

เช้าวันที่ 8 ธันวาคม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมัดติเปิดทางให้ญี่ปุ่นผ่านเพื่อป้องกันการสูญเสียเลือดเนื้อของชาวไทยรัฐบาลประกาศให้ทหารและพลเรือนทุกจังหวัดให้ยุติการต่อต้านผู้รุกรานท่ามกลางความเศร้าของชาวไทยทั่วประเทศเย็นวันนั้น นายปรีดี นับหมายผู้ใกล้ชิดมาร่วมหาลือที่บ้านกระบวกการต่อต้านญี่ปุ่นหรือที่ในเวลาต่อมาที่รู้จักกันในชื่อกระบวกการเสรีไทยถือกำหนดขึ้นนับแต่นั้น3วันถัดมาสถานทูตไทยวอชิงตัน

ซึ่งนำโดยอัคราชทูต หนุ่มเสนีย์ ปราโมช ประกาศไม่ขึ้นต่อการตัดสินใจของรัฐบาลไทยและกระบวกการเสรีไทยภายนอกประเทศขึ้นภารกิจในช่วงแรกของเสรีไทยในประเทศ

นอกจากพยายามจัดตั้งกองกำลังเพื่อเตรียมการต่อสู่กับญี่ปุ่นแล้วยังต้องการความพยายามส่งข่าวความเคลื่อนไหวให้เสรีไทยภายนอกประเทศรับรู้เพื่อหาทางประสานกับฝ่ายสัมพันธมิตรต่อไปกำจัดพลานกูลศิษย์โรงเรียนกฎหมายที่สายรุ่นแรกที่ ปรีดี ในฐานะหัวหน้ากระบวนการเสรีไทยส่งไปยังประเทศจีนเพื่อหาทางติดต่อกับเสรีไทยในสหรัฐแต่คณะของจำกัดหายเงียบไปกว่า4เดือนหน่วยกล้าตายคณะที่สองจึงถูกส่งตามไป

เดือน กันยายน 2487 เสรีไทยภายในประเทศกับเสรีไทยกับสหรัฐอเมริกาติดต่อกันได้อย่างสำเร็จส่งผมทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถให้การช่วยเหลือกระบวนการทั้งด้านอาวุธและการวางแผนยุทธการอย่างเต็มที่

 

สนับสนุนโดย  dewabet

รูปปั่นในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ยังหาข้อสรุปไม่ได้และไม่พบหลักฐานใดๆเพื่อยืนยัน

สำหรับในช่วงแรกที่พวกเขาได้มีการค้นพบหุ่นเครื่องปั่นดินเผาเขาก็คาดว่าเป็นวัดแต่สุดท้ายมันก็ได้เป็นสุสาน ซึ่งในตอนแรกที่ได้มีการขุดค้นพบขึ้นมากันใหม่ๆเขาก็ได้มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่ามันจะมีความเป็นไปได้หรอที่จะสร้างหุ่นหรือว่าจะสร้างทหารองครักษ์ด้วยดินเผา

แต่ละหน้าแต่ละรูปร่างมันไม่มีความเหมือนกันเลยสักหุ่นแม้แต่สีของผิวมันก็ยังต่างกันเลยจากนั้นมาเขาก็เลยได้ตั้งข้อสันนิษฐานขึ้นมากันว่าสรุปแล้วหุ่นรูปปั่นดินเผานี้มันได้ถูกสร้างขึ้นมาจากจิตกรหรือว่ามันได้ถูกสร้างขึ้นมาจากคนจริงๆแต่ตรงจุดนี้มันได้เป็นข้อสันนิษฐานก่อนที่จะได้มีหลักฐานมายืนยันว่าจริงๆภายในหุ่นนั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรเลยมันเป็นเพียงหุ่นรูปปั่นดินเผาเฉยๆ

แต่มันก็ยังได้มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่พวกเขานั้นยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่ามันได้ถูกสร้างขึ้นมาจากรูปปั่นธรรมดาและพวกเขาก็ได้เชื่อว่ามันจะต้องมีอะไรสักอย่างแต่ที่ชั่วๆเลยเขาไม่ได้เอาคนตายมาฝังแล้วเอามาปั่นให้มันเป็นหุ่นให้มันออกมาแต่ทีนี้พวกเขาก็ได้เกิดความสงสัยว่าแท้ที่จริงสรุปแล้วมันได้เกิดขึ้นมาจากอะไรเพาะในหลักฐานส่วนใหญ่ของจิ๋นซีฮ่องเต้หรือว่าราชวงศ์ชิงที่ได้สร้างเกี่ยวกับหุ่นรูปปั่นดินเผา

หรืออะไรอย่างนี้มันได้ถูกทำร้ายหลักฐานไปหมดแล้วตั้งแต่ในสมัยกก่อนจากนั้นมันก็ได้ทำให้พวกเขานั้นสรุปความยังไม่ได้แต่มันก็ยังได้เป็นข้อสงสัยกันมาอยู่ถึงทุกวันนี้ว่าทำมันขึ้นมาได้ยังไงกว่า6,000กว่ารูปปั่นหน้าตาและสีผิวความสูงอะไรหลายๆอย่างมันไม่เหมือนกันเลยมันน่าสงสัยเอามากๆแล้ว

ข้อสงสัยตรงนี้เราเลยเอามานั่งคิดกับตัวเองอยู่สองอย่างเราเคยคิดที่จะตั้งทฤษฎีว่าเขาอาจจะเอาคนจริงๆเอามาทำเป็นรูปปั่นก็เป็นได้คำว่าคนจริงของเรานั้นก็คือเขาอาจจะเอาดินเผามาเทๆแล้วก็ปล่อยให้เราเขาได้เสียชีวิตไปเลยซึ่งตรงนี้เราตัดไปได้เลยเพราะว่าเขาได้ออกมายืนยันแล้วว่ามันไม่ใช่เพราะภายในมันไม่ได้มีอะไรเลยเพราะว่าข้างในมันไม่ได้มีอะไรเลยมันเป็นเพียงรูปปั่นเปล่าๆแต่อีกหนึ่งอันที่เราได้ตั้งข้อสันนิษฐานคืออะไรรู้หรือไม่การที่แต่ละรูปปั่นหน้าไม่เหมือนกันเราเลนสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้มั้ยถ้าเราเอาคนจริงๆเอามาเป็นแม่แบบ

 

สนับสนุนโดย  dewabet

ตำนานหอคอยเลือด  Bloody Tower 

           ที่เมืองลอนดอนประเทศอังกฤษนั้นมักจะมีตำนานเล่าขานกันสืบนารายณ์ตำนานซึ่งหนึ่งในตำนานที่ผู้คนต่างสนใจและยังคงหลอกหลอนผู้คนมาจนถึงปัจจุบันหนึ่งในตำนานนั้นก็คือวิญญาณเจ้าชายที่อาศัยอยู่ที่หอคอยเลือดหรือที่เราเรียกกันว่า  Bloody Tower ที่แห่งนี้

มีเรื่องเล่ามายาวนานตั้งแต่สมัยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 ที่มีการสืบทอดบัลลังก์ร่วมกันกับเจ้าชายริชาร์ดทั้งสองพระองค์เป็นพี่น้องที่จะต้องมีการสืบทอดบัลลังก์ต่อจากเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แต่มีประวัติเป็นมาเล่าว่าทั้งสองพระองค์ได้หายตัวไปหลังจากที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ตายไปไม่นาน

โดยหลายคนเชื่อกันว่าทั้งสองพระองค์ถูกนำไปฆ่าเนื่องจากในตอนนั้นทั้งสองพระองค์ยังเป็นแค่เพียงเด็กน้อยที่ไม่สามารถต่อกรกับใครได้ทำให้ผู้ที่ต้องการอำนาจต่างก็พากันเยอะแยะ

อำนาจที่ต้องการครองบัลลังก์จึงได้มีการรักตัวรัชทายาททั้งสองพระองค์ไปฆ่าทิ้งและที่เป็นตำนานเล่าขานถึงความเฮี้ยนของหอคอยแห่งนี้เนื่องจากชาวอังกฤษเชื่อว่าวิญญาณของเจ้าชายทั้งคู่ยังคงรอคอยการแก้แค้นที่หอคอยเลือดแห่งนี้

ซึ่งมีคนเล่าว่าหากใครเดินมาที่หอคอยแห่งนี้ในช่วงเวลากลางคืนแล้วก็คุณจะเห็นกับเด็กน้อย 2 คนหน้าตาน่ารักอยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ทั้งสองคนจะจูงมือกันเดินไปเรื่อยๆแล้วอยู่ๆทั้งสองคนก็จะเดินหายไปเข้าไปในกำแพงของหอคอยเลือด และถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นเพียงตำนานการเล่าต่อๆกันมาแต่ก็มีข้อสันนิษฐานที่คาดการณ์กันได้ว่าน่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงเนื่องจากว่าในปีพุทธศักราช 1684 ได้มีช่างเดินทางมาซ่อมหอคอย

เนื่องจากหอคอยมีการทรุดโทรมมานานหลายปีซึ่งช่างที่เข้ามาซ่อมแซมได้มาเข้าซ่อมแซมทางฝั่งใต้ของหอคอยและพวกเขาก็ต้องตกลงเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าพวกเขาได้พบกับหัวกระโหลกของเด็กน้อยจำนวน 2 หัวด้วยกันและเมื่อเรื่องนี้มีการแพร่ไปประชาชนชาวอังกฤษต่างก็เชื่อกันว่าหัวกะโหลกทั้งสองหัวนั้นน่าจะเป็นหัวเข่าของเจ้าชายน้อยทั้งสองพระองค์ที่หายสาปสูญไป

และถึงแม้ชาวเมืองต่างก็พากันทำบุญสวดมนต์ให้กับเจ้าชายทั้ง 2 คนเพื่อให้เจ้าชายได้ไปสู่สุคติแต่ใครก็ตามที่เดินมาวนเวียนที่หอคอยแห่งนี้ในช่วงเวลากลางคืนต่างก็ยังพบเจอวิญญาณของเจ้าชายน้อยทั้งสองพระองค์ที่มักจะมาเดินและวิ่งเล่นรอบๆบริเวณหอคอยจึงทำให้หอคอยแห่งนี้กลายเป็นหอคอยที่เป็นที่กล่าวขานเป็นอย่างมากๆเป็นหอคอยที่มีความเพียรมากที่สุดหอคอยหนึ่งในประเทศอังกฤษซึ่งทางเมืองต่างก็จะหลีกเลี่ยงการเดินทางมาที่หอคอยนี้ในช่วงเวลากลางคืนผมไม่ต้องการเจอกับเจ้าชายน้อยทั้งสองพระองค์นั้นเอง 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  dewabet